21/4/52


นักวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยเคนตักกี้ ที่สหรัฐฯ วัดพบว่า เพียงหายใจเอาควันบุหรี่ หรือ ควันของน้ำมันพืชเข้าไปชั่ว 10 นาทีเท่านั้น ก็ทำให้หัวใจคนเราเต้นไม่เป็นส่ำไปได้ นับเป็นหลักฐานยืนยันได้ว่า มลพิษใน อากาศมีส่วนทำให้เกิดสถิติการเพิ่มขึ้นสูงของอาการหัวใจวายและเสียชีวิตโดยกะทันหันได้ อนุภาคละเอียดยิบที่มีอยู่ทั้งในควันบุหรี่และน้ำมันพืชด้วยกัน สร้างความกระทบกระเทือนให้กับหัวใจและหลอดเลือด จนเกิดรบกวนการทำงานขึ้นนักวิจัยจอยซ์ แมเคลนดอน อีแวน ได้พบจากการศึกษาให้อาสาสมัครหายใจเอาควันหลงของบุหรี่ น้ำมันพืช และควันไฟฟืนในปริมาณต่ำเข้าไป โดยคอยวัดสังเกตการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด และระบบการหายใจดู ได้พบว่ายิ่งผู้ชายจะรับผลกระทบอย่างรุนแรง ถึงกับแบบแผนการหายใจปรวนแปรไป ความดันโลหิตในเส้นเลือดตามแขนขาสูงขึ้น เขาถึงกับออกปากว่า"แทบไม่น่าเชื่อว่าการหายใจมลพิษทางอากาศระดับต่ำขนาดนี้ จะทำให้เกิดปฏิกิริยาของร่างกายที่มีความสำคัญทางสถิติขนาดนี้ขึ้นได้"

Songkran


Songkran is a Thai traditional New Year which starts on April 13 every year and lasts for 3 days. Songkran festival on April 13 is Maha Songkran Day or the day to mark the end of the old year, April 14 is Wan Nao which is the day after and April 15 is Wan Thaloeng Sok which the New Year begins. At this time, people from the rural areas who are working in the city usually return home to celebrate the festival. Thus, when the time come, Bangkok temporarily turns into a deserted city.
Songkran is a Thai word which means "move" or "change place" as it is the day when the sun changes its position in the zodiac. It is also known as the "Water Festival" as people believe that water will wash away bad luck.
The Songkran tradition is recognized as a valuable custom for the Thai community, society and religions. The value for family is to provide the opportunity for family members to gather in order to express their respects to the elders by pouring scented water onto the hands of their parents and grandparents and to present them gifts including making merits to dedicate the result to their ancestors. The elders in return wish the youngsters good luck and prosperity.
The values for community is to provide the opportunity to create unity in the community such as to jointly acquire merits, to meet each other and to enjoy the entertaining events. And for the society value is to create concern upon environment with cooperation such as to clean houses, temples, public places and official buildings. Thais value the religion bye means of merits acquisition, offerings alms to monks, Dhamma Practice, listening to sermon and monks-bathing.
In the afternoon, after performing a bathing rite for Buddha images and the monks, the celebrants both young and old, joyfully splash water oon each other. The most-talked about celebration takes place in the northern province of Chiang Mai where Songkran is celebrated from April 13 to 15. During this period, people from all parts of the country flock there to enjoy the water festival, to watch the Miss Songkran Contest and the beautiful parades.

วันสงกรานต์


"สงกรานต์"คือ วันขึ้นปีใหม่ ตามประเพณีไทย และเป็นโอกาสที่ สมาชิกในครอบครัว จะได้ พบกัน พร้อมหน้าพร้อมหน้า ในช่วงเวลานี้ ประชาชนผู้ซึ่ง เป็นคนต่างจังหวัด ที่มา ทำงานใน กรุงเทพมหานคร ส่วนใหญ่ ก็จะเดินทางไป ฉลองเทศกาลนี้ ที่บ้านเกิดของตน ดังนั้น เมื่อเทศกาลนี้ มาถึงกรุงเทพมหานคร ก็จะกลายเป็นเมืองร้างไปชั่วคราว
เทศกาลสงกรานต์ ตรงกับวันที่ 13 เมษายนและ การฉลอง ประจำปี ก็จะ จัดให้มี ขึ้นทั่ว ทั้งราชอาณาจักร ที่จริงแล้วคำว่า" สงกรานต์" นี้เป็น ภาษาไทย ซึ่งหมายถึง "เคลื่อนย้าย" หรือ เปลี่ยนที่ เพราะว่า เป็นวันที่ พระอาทิตย์ เปลี่ยนตำแหน่ง ในการจักรราศี นอกจากนี้ ยังเรียกว่า"เทศกาลน้ำ" อีกด้วย เพราะว่า ประชาชน เชื่อว่าน้ำ จะพัดพา เอาสิ่งที่เป็น อัปมงคล ออกไป
วันขึ้นปีใหม่ ตามประเพณี ของไทยนี้ เริ่มต้นแต่เช้าตรู่ ด้วยการทำบุญตักบาตร แก่พระสงฆ์ และ ปล่อยนก ที่ขังไว้ให้เป็นอิสระ ในช่วงวาระโอกาส อันเป็นมงคลนี้ สัตว์ต่างๆ ที่ถูกขังไว้ก็จะ ได้รับการปล่อยให้เป็นอิสระ การทำบุญตักบาตร ถือเป็น การสร้างบุญกุศล ให้ตัวเอง และ อุทิศส่วนกุศลนั้น แก่ผู้ล่วงลับไปแล้ว หลังจากทำบุญแล้ว จะมีการ ก่อพระทรายเข้าวัด ถือเป็นกุศลอย่างมาก ดังเช่น ภาคเหนือ มักนิยมขนทรายเข้าวัด เพื่อเป็น นิมิตโชคลาภ ให้มีความสุข ความเจริญ เงินทองไหลมาเทมา ดุจทรายที่ ขนเข้าวัด ส่วนการปล่อยนก ปล่อยปลา ถือเป็นการล้างบาป และ สะเดาะเคราะห์ให้ร้าย ให้หมดสิ้นไป มีแต่ ความสุขความเจริญ
พร้อมกันนี้ การไหว้บรรพบุรุษ ก็เป็น ส่วนสำคัญ ของวันนี้ด้วย ประชาชน จะแสดงความเคารพ ต่อผู้สูงอายุ และ ในทางกลับกัน ผู้สูงอายุ ก็จะอวยพรให้ ผู้น้อยประสบโชคดี และ เจริญรุ่งเรือง ในตอนบ่าย หลังจาก พิธีสรงน้ำ พระพุทธรูป และพระสงฆ์ แล้วผู้ร่วมฉลอง ทั้งหนุ่ม และแก่ ต่างสาดน้ำ ใส่กัน อย่างสนุกสนาน การฉลองที่มี คนกล่าวขานกัน มากที่สุด เห็นจะเป็นที่ จังหวัด ทางภาคเหนือ คือ เชียงใหม่ ซึ่งการฉลองที่นี่ จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 13- 15 เมษายน ช่วงเวลาที่ ประชาชนจาก ทั่วทุกภาค ของประเทศ จะแห่กันไป ที่นั่น เพื่อร่วมสนุกสาน ในเทศกาลน้ำนี้ เพื่อชม การประกวดนางงาม สงกรานต์ และ ขบวนพาเหรด ที่สวยงาม

3/3/52

ปิดฉาก อาเซียน ซัมมิท

ผลการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 14 ได้ผลอย่างเป็นรูปธรรม เมื่อผู้นำ 10 ประเทศอาเซียน ร่วมกันลงนามเอกสาร และให้การรับรอง"ปฏิญญาชะอำ หัวหิน ว่าด้วยแผนงานสำหรับประชาคมอาเซียน" ค.ศ. 2009 - 2015 ทั้งนี้ ผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนยังให้การรับรองและออกเอกสารสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการประชุมฯ อีก 6 ฉบับ ประกอบด้วย...
1. แผนงานการจัดตั้งประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน
2. แผนงานการจัดตั้งประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
3. แผนงานข้อริเริ่มเพื่อการรวมตัวของอาเซียน ฉบับที่สอง ค.ศ. 2009-2015
4. ปฏิญญาร่วมว่าด้วยการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษในอาเซียน
5. แถลงการณ์ว่าด้วยความมั่นคงด้านอาหารในภูมิภาคอาเซียนรวมทั้งแผนนโยบายบูรณาการความมั่นคงด้านอาหารของอาเซียน และแผนกลยุทธ์ความมั่นคงด้านอาหารของอาเซียน
6. แถลงการณ์ว่าด้วยวิกฤตเศรษฐกิจและการเงินโลก

ต้นจันทน์หอม

ชื่อพันธุ์ไม้: จันทน์หอม ชื่อวิทยาศาสตร์: Mansonia gagei Drumm. วงศ์: STERCULIACEAEชื่ออื่น: จันทน์ จันทน์ชะมด จันทน์ขาว จันทน์พม่าถิ่นกำเนิด: ป่าดิบแล้งทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ และภาคตะวันตกเฉียงใต้ที่สูงจากระดับน้ำทะเล 200 – 400 ซ.ม.รูปร่างลักษณะ: เป็นไม้ต้นขนาดใหญ่ ผลัดใบ สูงประมาณ 10 - 20 เมตร1.เปลือก ค่อนข้างเรียบสีเทาอมขาว เรือนยอดเป็นพุ่มค่อนข้างโปร่ง 2.ใบ เดี่ยว เรียงสลับ แผ่นใบรูปรี แกมรูปขอบขนานหรือแกมรูปไข่กลับ กว้าง 3-6 ซม.ยาว 8-14 ซม. ปลายใบแหลมโคนใบเว้า เบี้ยวเล็กน้อย ขอบใบเป็นคลื่นห่าง ๆ 3. ดอก เล็กสีขาวออกรวมกันเป็นช่อสั้น ๆ ตามปลาย กิ่งและตามง่ามใบ ออกดอกราวเดือนสิงหาคม - ตุลาคม4.ผล รูปกระสวย กว้าง 0.5 - 0.7 ซม. ยาว 1 - 1.5 ซม. มีปีกรูปทรงสามเหลี่ยม หนึ่งปีกกว้าง 1 - 1.5 ซม. ยาว 2.5 - 3 ซม. ผลจะแก่ ธันวาคม - มกราคมสภาพที่เหมาะสม: สภาพดินแทบทุกชนิด แสงแดดจัด ชอบขึ้นตามดินแถบเขาหินปูน ขึ้นในป่าดิบแล้ง ชอบขึ้นทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ และภาคตะวันตกเฉียงใต้ที่สูงจากระดับน้ำทะเล 200 - 400 เมตรการขยายพันธุ์: โดยการเพาะเมล็ด ประโยชน์: 1.เนื้อไม้ กระพี้ สีขาว แก่นสีน้ำตาลเข้ม ใช้ทำหีบใส่เสื้อผ้า เครื่องกลึง เครื่องแกะสลัก ทำหวี ดอกไม้จันทน์ ธูป น้ำมัน 2.ไม้ที่ตายเองจะมีกลิ่นหอม หอมที่ได้จากการกลั่นชิ้นไม้ ใช้ปรุงเครื่องหอมและเครื่อง สำอาง ใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ 3.เนื้อไม้ใช้เป็นยาแก้ไข้ แก้กระหายน้ำและอ่อนเพลีย

กินแล้วอ่อนเยาว์



ทราบหรือไม่ว่า รับประทานอะไรแล้วอ่อนเยาว์ วันนี้มีมาฝาก....


1.หยุดผมร่วง รับประทานกล้วย ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินบี มีสรรพคุณป้องกันผมร่วงได้ดี การรับประทาน กล้วยเข้าไปในปริมาณที่เพียงพอ จะช่วยรักษาเส้นผมให้อยู่คู่กับหนังศีรษะได้นานวัน


2. ลดผิวมัน รับประทานธัญญาหารทุกเช้า ซึ่งอุดมด้วยวิตามินบี 2 ที่ช่วยหยุดยั้งการผลิตน้ำมันส่วนเกิน ของต่อมผลิตภายในร่างกายที่เป็นสาเหตุหนึ่งของเส้นผมบางและมัน

3. หยุดการลอกของผิวหนัง รับประทานปลาแซลมอนใส่เกลือรมควัน อาหารทะเล หรือสลัดผักสดก็ได้

4. ผิวเนียนใสเหมือนเด็ก รับประทานมะม่วง มีเบต้าแคโรทีนที่ช่วยทำให้ผิวมีสุขภาพดี โดยช่วยกระตุ้นการสร้าง ผิวหนัง รวมทั้งหนังศีรษะเพื่อทดแทนของเดิมที่หยาบแห้งและขรุขระ ให้กลับมีความชุ่มชื่นและนุ่มเนียน
5. ชะลอผมหงอก รับประทานถั่วลิสงอบเนยรวมกับเกล็ดขนมปังที่อบมาร้อน ๆ ก่อนมื้ออาหาร ถั่วลิสงมี วิตามินบีที่สามารถหยุดการเปลี่ยนสีผมได้ และยังทำให้ผิวหนังดูดีขึ้นอีกด้วย

6. ดูหนุ่มสาวขึ้นอีก 5 ปี รับประทานฝรั่ง หรือน้ำฝรั่งซึ่งอุดมด้วยวิตามินซี เพราะจะช่วยเก็บรักษา คอลลาเจนที่เป็นบ่อเกิดแห่งโปรตีนภายใต้ผิวหนัง หรือรับประทานมะละกอ ส้ม ลูกเกดสีดำอบแห้ง ร่วมกับ ผลไม้ประจำวันก็จะช่วยเพิ่มวิตามินซีเช่นกัน

7. ปกป้องใบหน้าจากมลพิษ วิตามินบีในอะโวคาโดช่วยทำให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย และร่างกายเกิดความ ต้านทานจากการทำลายในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งนี้รวมถึงการถูกทำลายจากบรรยากาศที่มลภาวะเป็นพิษ


รู้อย่างนี้แล้ว ถ้าอยากแลดูอ่อนเยาว์ ก็ควรเลือกรับประทานให้เหมาะสม.

20/2/52

ผู้นำไทย-อินโดฯ เห็นพ้อง แก้ปัญหาโรฮิงญาระดับภูมิภาค


ผู้นำไทย-อินโดฯ เห็นพ้อง แก้ปัญหาโรฮิงญาระดับภูมิภาค (ไทยรัฐ)
ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในระหว่างการเยือนประเทศอินโดนีเซียอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 20-21 ก.พ. โดยในช่วงเช้า วันนี้ (21 ก.พ.) นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์วีรชน และจะเดินทางไปยังสำนักเลขาธิการอาเซียน เพื่อกล่าวสุนทรพจน์และเยี่ยมชมสำนักงาน เวลา 13.05 น. นายกรัฐมนตรี และ คณะเดินทางออกจากกรุงจาการ์ตา เที่ยวบินที่ TG434 และ เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 16.35 น. สำหรับ เมื่อวานนี้ (20 ก.พ.) นายกรัฐมนตรี ได้พบปะทวิภาคีกับประธานาธิบดี ซูซิโล บัมบัง ยุดโดโยโน ของอินโดนีเซีย โดยกล่าวหลังหารือว่า ผลการหารือเต็มคณะร่วมกันเป็นไปด้วยดีอย่างยิ่ง เพราะทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา การขยายตัวในเรื่องของการค้าอยู่ในระดับที่น่าพอใจมาก เรื่องที่ได้หารือจะมีเรื่องหลัก ๆ ที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ทวิภาคี และการทำงานในระดับภูมิภาค ทั้งนี้ ในประเด็นทวิภาคี นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทั้ง 2 ฝ่าย ต้องการขยายการค้าการลงทุน และความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ซึ่งได้มีการพูดถึงลู่ทางดังกล่าวหลายช่องทาง ที่จะสามารถทำให้เกิดการขยายตัวได้ ประการแรกคือข้อตกลงทางการค้า ซึ่งกำลังจะดำเนินการเพื่อให้ได้ข้อยุติ เพื่อให้การค้าการลงทุนมีความสะดวกมากขึ้น 2. ความร่วมมือในกรอบสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นความร่วมมือที่ยังสามารถขยายไปได้อีก โดยเฉพาะสิ่งที่ไทยได้เสนอไป คือ หากมีการเชื่อมโยงการเดินทางทางอากาศ คือ เที่ยวบินที่เชื่อมโยงในพื้นที่สามเหลี่ยมเศรษฐกิจ ก็น่าจะเป็นช่องทางหนึ่ง ที่ช่วยเพิ่มพูนเรื่องการค้าการลงทุนได้ 3. ปัญหาการประมง หลังจากที่อินโดนีเซียมีการปรับกฎระเบียบ ก็มีผู้ประกอบการ และชาวประมงของไทย ที่ต้องการจะเข้าไปทำการประมงในอินโดนีเซีย ซึ่งแนวทางขณะนี้คือ ภายใต้กฎระเบียบนั้น ก็คือ การจะเข้ามาในลักษณะของการร่วมทุน ทำให้เกิดมูลค่าเพิ่ม ในส่วนของสินค้าประมง และที่ได้เสนอกันมา และตรงกันทั้ง 2 ฝ่าย คือ ขั้นตอนจากนี้ไปคงหากรอบความร่วมมือโดยเฉพาะการร่วมทุน และหาผู้ที่สนใจจะเข้ามาเป็นหุ้นส่วนการลงทุนทั้งสองฝ่าย ทั้งในด้านการแปรรูป และการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้ชาวประมงไทยมีโอกาสมากขึ้นในอินโดนีเซีย
ในด้านการรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะขยายไปถึงความร่วมมืออื่นๆ มีการพูดถึงการประชุมสุดยอดอาเซียน การขยายความริเริ่มเชียงใหม่ และข้อตกลงเกี่ยวกับการใช้เงินสำรองเข้ามารวมกัน เพื่อเป็นช่องทางในการช่วยเหลือประเทศในภูมิภาค ที่มีความจำเป็นในด้านการเงิน ขณะเดียวกันไทยและอินโดนีเซียจะไปประชุม G 20 ที่ลอนดอน และได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกัน ซึ่งมีความเห็นที่ตรงกันว่า ต้องการไปส่งสัญญาณให้ชัดว่า การแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจของทุกประเทศ นั้นต้องไม่นำไปสู่เรื่องของการกีดกันทางการค้า และต้องคำนึงเรื่องของการรักษาการไหลเวียนทั้งเงินทุน การค้า และการลงทุนของประเทศกำลังพัฒนาด้วย
นอกจากนี้ ยังมีการพูดถึงปัญหาภาคใต้ของไทย ซึ่งอินโดนีเซียมีส่วนสำคัญในการช่วยอธิบาย ให้กับ OIC ให้เข้าใจสภาพปัญหาที่แท้จริง ทั้งนี้ อินโดนีเซียได้ยืนยันว่า ได้ให้การสนับสนุนแนวทางการทำงาน แก้ไขปัญหาของไทย และถือว่าเป็นปัญหาภายใน ทำให้การทำงานของไทยสะดวกขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ขณะที่ปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมืองโรฮิงญา ได้เห็นตรงกันว่า เป็นปัญหาที่ต้องแก้ในระดับภูมิภาค จึงสนับสนุนให้นำเรื่องดังกล่าว สู่กระบวนการบาหลี และนำไปปรึกษาในกรอบอาเซียน หรือมีการจัดตั้งกลุ่มขึ้นมาระหว่างประเทศที่ได้รับผลกระทบ หรือเกี่ยวข้องกับปัญหานี้ และว่าไทยพร้อมให้ตรวจสอบ และไม่ขัดข้องที่จะให้ยูเอ็นเอชซีอาร์ เข้าดูแลทั้งนี้เห็นว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น ทุกประเทศต้องร่วมมือกัน ซึ่งไทยและอินโดนีเซีย จะหารือปัญหาโรฮิงญาร่วมกันในเดือนมีนาคมนี้

ฝึกสมอง..ให้เป็นคนเก่ง

อย่าทำงานซ้ำซ้อนในเวลาเดียวกันเพราะอาจเกิดการผิดพลาดได้ง่าย นอกจากนี้ การแข่งขันยังช่วยกระตุ้นสมองให้โลดแล่นอีกด้วย
"การฝึกฝนทำให้คุณเป็นคนเก่ง" นี่คือคำกล่าวของนักประสาทวิทยาชาวสวีเดน โทร์เคล คลิงเบิร์ก ว่าคนเราควรทำอย่างไรให้ได้ข้อมูลและมีความเข้าใจมากที่สุดโดยที่เราไม่ต้องใช้สมองจนเกินกำลังหรือไม่ทำให้รู้สึกเบื่อหน่าย เนื่องจากสมองทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดในระยะเวลาที่จำกัด แต่เราก็มีวิธีที่จะใช้ศูนย์ความคิดของเราให้มีประโยชน์มากที่สุดเช่นกัน
Multitasking คุณกำลังเดินทางไปพบปะพูดคุยธุรกิจและระหว่างทางครุ่นคิดวิธีการเจรจาตกลงต่างๆ คุยโทรศัพท์หรือเขียนจดหมาย แต่การทำงานหลายๆอย่างในคราวเดียวกันมีความเสี่ยงกับความผิดพลาดในการส่งอีเมลล์ผิดให้กับคู่เจรจา ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำให้ทำงานหรือธุระใดๆก็ตามให้เป็นไปตามลำดับ อย่าทำงานหลายอย่างในคราวเดียวกันเพื่อป้องกันการผิดพลาด
สัญชาตญณบอกคุณได้ดีกว่าสมอง ในแต่ละวันเรามีเรื่องต้องตัดสินใจประมาณ 20,000 เรื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องในชั่วพริบตา และคนเป็นจำนวนมากที่ตัดสินใจโดยไม่รู้ตัว เช่น การทักทายและออกความเห็นในที่ประชุม โดยเฉพาะคนที่ทำงานในออฟฟิต ที่มีเงื่อนไขของเวลาเป็นเรงกดดันในการตัดสินใจ นักจิตวิทยาจึงแนะนำให้ฟังเสียงความรู้สึกของตัวเองหรือสัญชาตญาณที่เรานำไปใช้โดยไม่รู้ตัว ซึ่งก็ทำให้มีทางเลือกที่เร็วกว่าในการตัดสินใจแบบสายฟ้าแลบ เนื่องจากการตัดสินใจแบบในชั่วพริบตาจำเป็นต้องอาศัยประสบการณ์ แต่ในกรณีที่คุณต้องตัดสินใจเรื่องที่ไม่เชี่ยวชาญก็ควรปรึกษาและขอความเห็นจากผู้ใหญ่ที่มีความรู้และประสบการณ์จะดีกว่า
กลิ่นกาแฟช่วยกระตุ้นเซลล์สมอง หากจำเป็นต้องตื่นแต่เช้าเพราะมีงานด่วน ยังรู้สึกงัวเงีย สมองยังไม่แล่นเพราะนาฬิกาชีวิตยังปรับไม่ทันความจำเป็นของคุณ สิ่งที่จะช่วยได้ก็คือกาแฟสักหนึ่งถ้วยลำพังกลิ่นกาแฟในตอนเช้าก็มีผลกระตุ้นสมองให้ตื่นตัว นี่คือผลการศึกษาจากนักวิจัยชาวญี่ปุ่น เพื่อนร่วมงานของคุณก็คงจะยินดีที่จะได้กาแฟสักหนึ่งถ้วยจากคุณและคุณก็ยังได้สูดกลิ่นกาแฟไปด้วยการแข่งขันกระตุ้นสมอง ถ้าเรารู้ว่าเราต้องแข่งขันกับใครสักคน มันจะกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนไปทั่วบริเวณสมองหรือที่เรียกกันว่า "ศูนย์รับรางวัล" เพราะจากการศึกษาของมหาวิทยาลัยบอลล์ในประเทศเยอรมนี โดยการให้อาสาสมัครแข่งขันกัน หากใครตอบถูกจะได้รางวัล 120 ยูโร และมีการแสดงให้เห็นถึงปฏิกิริยาของสมองจากภาพสแกน ผลก็คือ มีเลือดไหลเวียนสูงสุดที่ศูนย์รับรางวัลของผู้เข้าแข่งขันระหว่างตอบคำถาม
สมาธิเพิ่มเมื่อมีงาน เสียงโทรศัพท์ ผู้ร่วมงานหัวเราะ มีอีเมล์ที่ต้องตอบ งานหลายๆอย่างประเดประดังเข้ามาใช้เวลาเกือบชั่วโมงกว่าคุณจะตั้งสมาธิได้ ทั้งนี้ นักจิตวิทยาชาวอังกฤษพบว่า การมีสมาธิขึ้นอยู่กับงานยากหรือง่าย หากเป็นงานยาก สมองก็จะมีสมาธิกับงานอย่างอัตโนมัติ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณมีอารมณ์เศร้า ก็อย่าจมปลักกับงานที่ทำเป็นประจำเพราะมันอันตรายกับสมองในการใช้งานเกินกำลัง คุณควรเรียนรู้สิ่งใหม่ๆบ้าง เพราะมีการพิสูจน์มาแล้วว่าโครงสร้างสมองของผู้ใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อได้เรียนสิ่งใหม่ๆและกระบวนการเรียนรู้ทุกอย่างจะเชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมองทำให้แข็งแรงขึ้น และยังก่อให้เกิดเซลล์ใหม่ๆด้วยซึ่งไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุ
สมองทำงานเหมือน Google จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียได้ตั้งข้อสันนิษฐานว่า เมื่อคนคิดถึงคำ ศูนย์ความคิดของคนเราจะทำหน้าที่คล้ายๆกับ Google คือคิดตามลำดับ เช่น 1 2 3
สมองต้องออกกำลัง แม้เราจะไม่ค่อยได้บริหารสมองด้วยการคำนวณหรือทายปริศนาอักษรไขว้ เราก็สามารถช่วยให้สมองฟิตได้ เพราะจากการศึกษาของมหาวิทยาลัยมิชิแกนได้ชี้ให้เห็นว่า การมีสังคมกับผู้คนสามารถช่วยให้สมองตื่นตัวได้เหมือนการบริหารสมอง

12/2/52

การทำบุญให้แก่ผู้ที่ตายไปแล้ว

ผู้ทำบุญโดยส่วนมาก ๙๙ เปอร์เซ็นต์ เพื่ออุทิศแก่ผู้มีพระคุณทั้งหลายมีบิดามารดาเป็นต้น ชาวพุทธมีดีตรงนี้แหละ พุทธศาสนาสอนให้รู้จักบุญคุณของผู้ที่มีพระคุณทั้งหลาย แล้วทำดีเพื่อสนองพระคุณของท่านเหล่านั้น ถ้าไม่รู้จักบุญคุณของผู้มีพระคุณแล้ว คนเราก็จะกลายเป็นเดรัจฉานไปหมด การทำความดี คือ บุญกุศลนี้ย่อมทำสิ่งที่เป็นคุณประโยชน์ ไม่ทำสิ่งที่เป็นโทษแก่ตนและคนอื่น ทำในที่เปิดเผย ไม่ทำในที่ลับด้วยและทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่เหมือนกับคนที่ทำความชั่ว ทำความชั่วนั้นทำด้วยความเศร้าหมองไม่ผ่องใส และก็ทำในที่ลับไม่เปิดเผยด้วย ทั้งไม่อุทิศส่วนบาปนั้นให้แก่ผู้มีพระคุณทั้งหลาย ถึงแม้อุทิศให้แก่ใครก็ไม่มีใครอยากรับ เพราะเป็นของเศร้าหมอง ทำบุญให้แก่ผู้มีพระคุณที่ตายไปแล้วนี้ จงทำด้วยของบริสุทธิ์อย่าไปฆ่าเป็ด ไก่ ฆ่าวัว ฆ่าควายมาทำ จะบาปหนักเข้าไปอีกทำเล็กๆ น้อยๆ ด้วยใจผ่องใสบริสุทธิ์ เป็นต้นว่าตักบาตรถวายอาหารพระสงฆ์ บุญก็มากเอง บุญมิใช่เกิดเพราะไทยทานมากๆ แต่เกิดขึ้นจากใจเลื่อมใสศรัทธาต่างหาก เปรียบเหมือนเทียนที่เรามีอยู่แล้วไปขอต่อจากคนอื่น เทียนของคนอื่นก็ไม่ดับ ของเราก็ได้ไฟสว่างมา เหตุนั้นบุญในพุทธศาสนาจึงหมดไม่เป็น คนมากี่ร้อย กี่พันเอาหัวใจของตนมาตักตวงเอาบุญในพุทธศาสนานี้ ก็ไม่มีหมดบุญยังเต็มเปี่ยมอยู่ตามเดิม ถ้าทำด้วยความเลื่อมใสแล้ว วัตถุทานมีน้อยก็กลายเป็นของมากเอง

วาเลนไทน์ในยุคก่อน


วาเลนไทน์เดย์ยุคก่อน (ขำขันไม่เบา) ถ้าพูดถึงวันวาเลนไทน์แล้ว ทุกคนคงจะนึกถึงใครสักคน ที่เป็นคนพิเศษในใจคุณ มีการส่งดอก กุหลาบ บัตรอวยพร ช็อกโกแลต สัญลักษณ์แห่งความหอมหวาน ไปให้คนที่ตนรัก แต่ถ้าย้อนยุคไป สมัยก่อน ชาวโรมันโบราณ ฉลองวันวาเลนไทน์ มานานหลายพันปี ด้วยการจัดงานควบคู่ไปกับงาน ฉลองเก็บเกี่ยวพืช โดยให้หญิงส าวสวมหน้ากาก รูปหมาป่า คอยเวลา ถูกกลุ่มชายหนุ่มรูปหล่อ นุ่งผ้าเตี่ยว เอาแส้โบย ชาวโรมันจัดงานรื่นเริงเช่นนี้ทุกเดือน ก.พ.ของทุกปี จนกระทั่งถึง ค.ศ.45 พระสันตะปาปาพระองค์หนึ่ง มีบัญชาให้เลิก แต่ทุกวันนี้ ประเพณีเฉลิมฉลองเทศกาล วาเลนไทน์ ของชาวมะกะโรนีแล ะกรีซยังมีอยู่ ชายหนุ่มยังเฆี่ยนตีหญิงสาวอยู่ แต่ใช้แส้พลาสติกแทน ซึ่งสร้าง ความสนุกสนาน ร่าเริงมากกว่า
อย่างไรก็ตาม คนโรมันโบราณ ในวันแห่งความรัก ถ้าจะให้คู่รักมีอารมณ์โรแมนติก จะต้องเปิบนอ ฮิบโปโปเตมัส และดวงตาตัวไฮอีน่า ไม่ได้อธิบายคุณสมบัติ ว่าทำไมต้องทำเช่นนั้น นอกจากนี้ยังเผยว่า "ผลส้ม" เป็นสัญลักษณ์ วันวาเลนไทน์ ชาวยุโรปรุ่นก่อนเล่าว่า ส้มเป็นผลไม้ บำรุงสมรรถนะทางเพศ สร้างอารมณ์โรแมนติก และความพึงพอใจทางเพศ หากใครต้องการให้ คู่รักหลงใหล ต้องใช้เข็มแทงผลส้ม แล้วนำไปใส่ใต้รักแร้ นอนหลับหนึ่งคืนรุ่งเช้า ใครกินผลส้ม เข้าไป จะตก หลุมรักเจ้าของในทันที (ใครกล้ากินจริง ก็คงเรียกว่าหลงรัก หน้ามืดตามัวเลยนะเนี่ย) อย่างไรก็ตามเรื่องส้มนี้ จีนโบราณถือเป็นยากระตุ้นเซ็กซ์ จักรพรรดิจีน ชวนนางสนมเอกช่วยกัน หั่นส้มชิ้นบางๆ พร้อมกับโปรยดอกส้ม ทั่วเตียงบรรทม สำหรับผลไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ วันวาเลนไทน์ อื่นๆ ก็มีผลอาร์ทิโชคมีใบเป็นหนาม กล้วย และพืชจำพวกไทรมีผลคล้ายแพร์ ซึ่งเชื่อว่าช่วยบำรุง สมรรถภาพทางเพศ สมัยก่อนมีข้อห้าม การใช้ช็อกโกแลต ฉลองวันวาเลนไทน์ เพราะมันกระตุ้นต่อม น้ำลายมากเกินไป อย่างไรก็ตาม ต่อมาได้มีการพัฒนา นำดอกกุหลาบ และช็อกโกแลตมาใช้ฉลอง จนถึงปัจจุบัน เหล่านี้คือแง่มุมหนึ่งของวันวาเลนไทน์ในอดีต
Love หรือ รัก คำนี้ดูเหมือนจะเป็นคำ ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย แทบจะมากที่สุดเลย ก็ว่าได้ ไม่ว่าสังคมจะเปลี่ยนไปแค่ไหน แม้ว่าอะไรๆจะเปลี่ยนไปก็ตาม แต่เจ้าความรักนี่ ดูเหมือนจะ ไม่รู้จักคำว่าล้าสมัย เอาซะเลย ความรักทำให้คนเรา เป็นคนมากขึ้น มีอารมณ์ มีความรู้สึก มีความคิด และอะไรต่างๆอีกมากมาย ที่เกิดขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ เมื่ออยู่ในห้วงอารมณ์แห่งความรัก แต่ถ้าคนเรา ไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ เมื่ออยู่ในความรัก อาจจะเกิดผลเสีย มากกว่าผลดีก็ได้ เพราะฉะนั้น "จงรักให้เป็น" อย่าให้ความรักมีอำนาจเหนือตัวเรา
เช็กสเปียร์เคยกล่าวไว้ว่า "The course of true love never ran smooth. But if you can hold to the course, you can surmount the obstacles that life puts in theway" "ความรักย่อมมีอุปสรรค แต่อุปสรรคจะทำให้รักเรา มีความหมายมากขึ้น" อย่าท้อแท้กับความรักนะครับ......

ใครที่กำลังจะซื้อช็อกโกแล็ตให้กับหวานใจในวันวาเลนไทนน์นี้ จะให้ถูกใจต้องมาดูกันก่อนว่า หวานใจของคุณเกิดในราศีอะไร คราวนี้จะได้ซื้อช็อกโกแล็ตได้ถูกใจคนรับ
> ราศีเมษต้องเลือกแบบที่หรูหราหน่อย เพราะชาวราศีเมษต้องการสิ่งที่ดีที่สุดเสมอสำหรับพวกเขา
> ราศีพฤษภชาวราศีพฤษภชอบช็อกโกแล็ตที่ใจกลางนุ่ม เช่น สอดไส้คาราเมลนี่เลิฟอย่าบอกใครเชียว
> ราศีเมถุนชาวราศีเมถุนจะชอบช็อโกแล็ตที่พกไปทานได้ง่ายๆ เพราะเป็นคนไม่อยู่กับที่ ชนิดที่เป็นแบบเม็ดเล็กๆ แล้วกดออกมาทานทีละนิดจะเวิร์กมาก
> ราศีกรกฎ ไม่ว่าจะเป็นช็อกโกแล็ตแบบไหน ชาวราศีกรกฎก็ชอบไปหมด เรียกว่าใบหน้าจะเต็มไปด้วยรอยยิ้มทุกครั้งที่ได้รับ
> ราศีสิงห์ มีเคล็ดนิดหน่อยเวลาจะให้ช็อกโกแล็ตชาวราศีสิงห์ คุณต้องมีวิธีการให้แบบเซอร์ไพส์ หรือจู่โจมถึงจะสร้างความประทับใจได้
> ราศีกันย์ คุณต้องแน่ใจว่าช็อกโกแล็ตที่จะให้สะอาด แสดงส่วนผสมชัดเจน และอยู่ใน***บห่อสวยงาม แล้วก็ต้องเป็นแบบที่เก็บไว้ได้นานาๆ ด้วยเพราะเขาจะกินมันครึ่งนึง แล้วเก็บที่เหลือไว้ในตู้เย็นอีกเป็นเดือน
> ราศีตุลย์ ชาวราศีตุลย์ชอบอะไรๆ ที่เป็นคู่ ดังนั้นคุณควรสร้างความประทับใจ ด้วยการหาซื้อช็อกโกแล็ตให้เขากล่องหนึ่ง แล้วก็สำหรับตัวเองเหมือนกันอีกกล่องด้วย
> ราศีพฤศจิกชาวราศีนี้เป็นคนที่ชอบกินช็อกโกแล็ตมาก โดยเฉพาะแบบที่ค่อนข้างเหลวหน่อย เพราะมีวิธีการกินที่ไม่เหมือนใคร ต้องค่อยๆ เลียเหมือนกินไอศครีม
> ราศีธนูชอบช็อกโกแล็ตแบบฝรั่งเศสเป็นที่สุดเลย ไม่รู้ว่าแบบฝรั่งเศสเป็นยังไงก็เลือกดูที่ Made in France แล้วกัน
> ราศีมังกรพวกนี้ชอบแต่ของที่ดีที่สุด และก็แพงที่สุดเท่านั้น ประเภทว่าถ้าไม่เริ่ดที่สุดก็ไม่มีทางแล
> ราศีกุมภ์ ไม่ต้องเอาอันที่ใหญ่มากนักหรอกนะ เล็กๆ ก็พอ ชาวราศีนี้ชอบอะไรที่ค่อนข้างจะกุ๊กกิ๊กน่ารัก
> ราศีมีนชาวมีนชอบช็อกโกแลตแบบที่มีรวมกันหลายรสหลายแบบ เพราะเป็นคนชอบแบ่งให้คนอื่นกินได้ด้วย

วันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ วันแห่งความรัก


เดือนกุมภาพันธ์เป็นเดือนที่อบอวลไปด้วยความสุขการแสดงถึงความรัก ความห่วงใยถึงคนที่ เราปรารถนาดีและอยากให้เขามีความสุข และเป็นที่รับรู้กันทั่วโลกว่าวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันแห่งความรักหรือ Valentine’s Day และวันนี้ยังมีคิวปิด หรือกามเทพ ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของ วันวาเลนไทน์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด คิวปิดเป็นบุตรของวีนัสและมาร์ส แต่ ชาวกรีกเรียกคิวปิดว่า อีรอส ภาพของ คิวปิดที่มนุษย์โลกปัจจุบันได้รู้จักก็คือภาพเด็กน้อยที่ถือคันธนูและลูกศร มีหน้าที่ยิงศรรักให้ปักใจคน ปัจจุบัน คิวปิดและธนูของเขากลายมาเป็น เครื่องหมายแห่งความรักที่เป็นที่รู้จัก มากที่สุด และความรักของเขามีกล่าวถึงบ่อยในภาพของ การยิงศรรัก ระหว่าง หัวใจสองดวงให้รักกัน เรียกกันว่า ศรรักคิวปิด เราจึงมาเล่าสู่กันฟังเกี่ยว กับประวัติความเป็นมาและความสำคัญ ของวันนี้กันค่ะ
เทศกาลวาเลนไทน์ เริ่มมีขึ้น ตั้งแต่ยุคที่จักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจ ในยุคนั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี ถูกจัดให้เป็นวันหยุดเพื่อเป็นเกียรติแต่เทพเจ้าจูโนผู้เป็น จักรพรรดินีแห่งเทพเจ้าโรมัน นอกจาก นี้แล้วพระองค์ยังทรงเป็นเทพเจ้าแห่ง อิสตรีเพศและการแต่งงานและในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ เป็นวันเริ่มต้นเทศกาล เฉลิมฉลองแห่งลูเพอร์คาร์เลีย การ ดำเนินชีวิตของหนุ่มสาวจะ ถูกตัดขาดออกจากกันอย่างสิ้นเชิง ในรัชสมัยของ จักรพรรดิคลอดิอัส ที่ 2 (Emperor Claudius II) แห่ง กรุงโรม พระองค์ ทรงเป็นกษัตริย์ที่มี ใจคอดุร้ายและทรงนิยม การ ทำสงครามนองเลือด ได้ทรงตระหนักว่าเหตุที่ ชายหนุ่มส่วนมากไม่ประสงค์จะเข้าร่วม ในกองทัพเนื่องจากไม่อยากจากคู่รัก และครอบครัวไป จึงทรงมีพระราชโอง การสั่งห้ามมิให้มีการจัดพิธีหมั้นและ แต่งงานกันในโรมโดยเด็ดขาด ทำให้ ประชาชนทุกข์ใจเป็นอย่างยิ่ง และขณะนั้น มีนักบุญรูปหนึ่งนามว่า เซนต์วาเลนไทน์ หรือวาเลนตินัส ซึ่งอาศัยอยู่ในโรมได้ ร่วมมือกับเซนต์มาริอัสจัดพิธีแต่งงานให้กับ ชาวคริสต์หลายคู่ และด้วยความปรารถนา ดีนี้เองจึงทำให้วาเลนไทน์ถูกจับและระ หว่างนี้ก็ยังคงส่งคำอวยพรวาเลนไทน์ ของเขาเองขณะที่เขาเป็นนักโทษ เป็น ความเชื่อว่าวาเลนไทน์ได้ตกหลุมรักหญิง สาวที่เป็นลูกสาวของผู้คุมที่ชื่อจูเลีย ซึ่งได้มาเยี่ยมเขาระหว่างที่ถูกคุมขัง ในคืนก่อนที่วาเลนไทน์จะสิ้นชีวิตโดยการถูกตัดศีรษะ เขาได้ส่งจดหมายฉบับ สุดท้ายถึงจูเลีย โดยลงท้ายว่า “From Your Valentine” . วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 หลังจากนั้นศพของเขาได้ถูก เก็บไว้ที่โบสถ์ พราซีเดส (Praxedes) ณ กรุงโรม จูเลียได้ปลูกต้นอามันต์ หรืออัลมอลต์สีชมพู ไว้ใกล้หลุม ศพของวาเลนตินัส แด่ผู้เป็น ที่รักของเธอ โดยในทุกวันนี้ ต้นอามันต์สีชมพูได้เป็นตัวแทน แห่งรักนิรันดรและมิตรภาพ อันสวยงาม และคำนี้ก็เป็นคำที่ใช้มา จนถึงปัจจุบัน ถึงแม้ว่าเบื้อง หลังความเป็นจริงของวาเลนไทน์จะ เป็นตำนานที่มืดมัว แต่เรื่องราวยังคง แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกสงสาร ความ กล้าหาญและที่สำคัญที่สุดเป็นเครื่องหมาย ของความโรแมนติค จึงไม่น่าประหลาดใจ เลยว่าในช่วงยุคกลางวาเลนไทน์เป็นนักบุญ ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในอังกฤษและฝรั่งเศส ต่อมาพระในนิกายโรมันคาทอลิกจึงเลือกให้ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันเฉลิมฉลอง เทศกาลแห่งความรักและดูเหมือนว่ายัง คงเป็นธรรมเนียมที่ชายหนุ่มจะเลือก หญิงสาวที่ตนเองพึงใจในวันวาเลนไทน์ สืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้
วาเลนไทน์ ในแต่ละประเทศจะมีประเพณีหรือการ ปฏิบัติที่แตกต่างกันบ้าง แต่โดยรวมแล้ว จะมีการเฉลิมฉลองและเป็นการแสดงถึง ความรักที่มีระหว่างกัน ต่อมาเมื่อความ เจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีทางด้าน การพิมพ์เข้ามาเกี่ยวข้องมีการพิมพ์บัตร อวยพรโดยเข้ามาแทนที่จดหมายที่ เขียนด้วยลายมือ และปัจจุบันก็มีการส่ง บัตรอวยพรทางออนไลน์เพื่อแสดงถึงความ ก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศที่ช่วย ให้คนที่ต้องการแสดงความรักความห่วงใย ถึงคนที่รักได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ประวัติ วันวาเลนไทน์นี้ เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆกันมา จนถึงปัจจุบัน เท่าที่ค้นหามาได้นี้เป็นเพียง หนึ่งในหลายๆเรื่องเท่านั้น แต่ไม่ว่าประวัติ ที่แท้จริง จะเป็นอย่างไรก็ตาม ใน ปัจจุบัน นี้เราได้ถือว่าวันวาเลนไทน์เป็น วันสำคัญวันหนึ่งในประวัติศาสตร์เลยที เดียว คุณสามารถส่งดอกไม้ ขนมและ การ์ด เพื่อบอกความนัยให้แก่คนพิเศษ ของคุณ วันนี้จะเป็นวันที่เราส่งความรู้สึก ดีๆให้แก่กัน...

26/1/52

แฟนที่ไม่ควรรัก


1. แฟนประเภทชอบรื้อฟื้น ชอบพูดแต่เรื่องเก่าๆ สมัยที่ผ่านมานาน และชอบพูดถึงแฟนเก่าว่าดีอย่างโน้นดีอย่างนี้ พร้อมจับทั้งแฟนใหม่กับแฟนเก่ามาเปรียบเทียบกัน ยิ่งพูดก็ยิ่งทำให้แฟนใหม่หมดกำลังใจไปเรื่อยๆ
2. แฟนชอบโกหกจนเป็นนิสัย การโกหก เป็นยาพิษที่บ่อนทำลายความรักได้ง่ายและรวดเร็วที่สุด
3. แฟนเจ้าชู้ไม่เลือกหน้า เผลอหน่อยไม่ได้ต้องเอาตัวเข้าไปเบียดกับคนอื่น และอ้างเหตุผลเดิมๆ ว่า เด็กเขายั่ว อย่างนี้เราก็อย่าลดตัวไปเป็นมารคอหอยเขาเลยแล้วกัน
4. แฟนที่ไม่สนว่า..จำเป็นต้องเอาใจคนรักอะไร..กันนักหนา หากรักกันจริงก็ควรดูแลเอาใจใส่ไม่ใช่คิดว่าไม่เห็นจำเป็นต้องเหลียวแล ความรักคือการแบ่งปันสิ่งดี ๆ ให้แก่กัน
5. แฟนไม่เคยมีเวลาให้ รวมถึงการผิดนัด บอกปัด อ้างงานเยอะ แม้แต่วันหยุดก็ไม่รู้หายไปไหน อย่างนี้จะเป็นแฟนกันไปทำไม
6. แฟนไม่เคยทำตามสัญญา อย่าสัญญาเพียงลมปากอย่างเดียว แต่ต้องทำให้เป็นจริงด้วย
7. แฟนที่ชอบตอกย้ำซ้ำเติมปมด้อยให้น้อยเนื้อต่ำใจได้ตลอดเวลา ถ้าใครอยากได้แฟนที่ดีๆ ก็อย่าให้นิสัยเข้าข่ายตามข้อที่แนะนำ

ราศีกับน้ำหอม


Aries ราศีเมษ (21 มีนาคม - 20 เมษายน) คุณรู้ว่าตัวคุณต้องการอะไร และยังรู้ด้วยว่าคุณจะได้สิ่งนั้นมาด้วยวิธีไหน คุณจึงเป็นคนที่มีการตัดสินใจที่แน่วแน่เด็ดเดี่ยว สิ่งนี้เองทำให้คุณมีลักษณะของผู้นำ อันเป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันให้คุณประสบความสำเร็จในชีวิต ข้อดีของคุณคือ เป็นคนหน้าซื่อมีความคิดอะไรอยู่ในใจ คุณจะแสดงออกไปตามนั้น น้ำหอมที่เหมาะกับชาวราศีคุณ ควรเป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นสะอาดและเบาบาง อย่างเช่น น้ำหอมกลิ่นอ่อนๆ ซึ่งเป็นกลิ่นหอมของดอกไม้นานา พรรณผสมกับกลิ่นเย็นๆ ของต้นไม้ประเภทสน
Taurus ราศีพฤษภ (21 เมษายน - 19 พฤษภาคม) คุณเป็นคนช่างเอาอกเอาใจ และมักจริงใจกับผู้อื่นเสมอ จนบางครั้งทำให้คนอื่นเกิดความรำคาญ แต่คุณไม่เคยโกรธและให้อภัยเสมอ คุณเป็นนักนิยมธรรมชาติตัวยง หากต้องนั่งทำงานในสำนักงานที่มืดทึบ หรืออยู่ในบ้านแคบๆ ที่เห็นแต่ข้างฝาคุณจะทนไม่ได้ ไม่น่าเชื่อเลยว่าในส่วนลึกแล้ว คุณเป็นคนที่เข้มแข็งและอดทนมาก คุณเป็นคนจมูกไวรับกลิ่นได้ หากเป็นกลิ่นที่คุณไม่ชอบ คุณจะไม่ชอบเอามากๆ ดังนั้น ควรเลือกน้ำหอมที่มี กลิ่นโบราณ เช่น กลิ่นของดอกกุหลาบผสมกลิ่นของพรรณไม้ใบเขียว
Gemini ราศีเมถุน (20 พฤษภาคม - 21 มิถุนายน) คุณมีหัวการค้าหากตั้งใจจะทำอะไรล่ะก็ ต้องทำให้สำเร็จ แต่ข้อเสียของคุณคือ ชอบทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก และลุกลี้ลุกลนเกินไป คุณก็เป็นอีกคนที่อยู่ในราศีคู่ เช่นเดียวกับราศีปลา ตามปกติคุณเป็นคนที่จิตใจสงบ ไม่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่น แต่เมื่อใดที่ถูกขัดคอขึ้นมา คุณจะฉุนกึกทันที คุณคือแชมเปี้ยนแห่งความเฟริทประจำจักรราศี ชอบทำตัวเป็นคนขึ้เล่น อ่อยเหยื่อไปทั่ว ถือซะว่าเผื่อฟลุ้กไง และเรื่อง ของกลิ่นหอมคุณเป็นคนช่างเลือก น้ำหอมที่น่าจะถูกใจเป็นกลิ่นแก่นจันทร์ ผสมกับกลิ่นของลาเวนเดอร์
Cancer ราศีกรกฎ (22 มิถุนายน - 22 กรกฎาคม) คุณเป็นคนมีอารมณ์อ่อนไหว รักก็ง่ายโกรธก็ง่าย ดีใจหรือเสียใจก็ง่าย อันเป็นลักษณะเฉพาะของชาวราศีนี้ สิ่งใดก็ตามที่เกิดขึ้นกับคุณ อย่างไม่เป็นธรรม จะทำให้คุณรู้สึกปวดร้าวใจเป็นยิ่งนัก คุณต้องมีใครสักคนเป็นที่ปรึกษาปัญหาของคุณ ซึ่งจะขาดชะตาไม่ได้ ด้วยความที่คุณเป็นคนนุ่มนวล กริยามารยาทงดงาม ทำให้คนอื่นประเมินค่าคุณผิด คิดว่าคุณเป็นคนหัวอ่อน แล้วสักวันคนเหล่านั้นจะรู้สึก คุณยึดติดอยู่กับชีวิตครอบครัว และปฏิบัติตนตามระเบียบประเพณี หากคุณรักใครสักคน คุณต้องการให้คนๆ นั้นแสดงความรักตอบเสมอ กลิ่นหอมที่เหมาะกับคุณ ควรเป็นกลิ่นที่ทำให้อารมณ์ของคุณเบิกบาน อันได้แก่กลิ่นดอกกุหลาบหรือดอกพลับพลึง
Leo ราศีสิงห์ (23 กรกฎาคม - 23 สิงหาคม) คุณคือเจ้าป่าราชสีห์ สิ่งที่คุณชอบมากคือความหรูหรา และชอบวางตัวโอ่อ่าภูมิฐาน จนบางครั้งทำให้ผู้อื่นเข้าใจว่า คุณเป็นคนหลงตัวเอง อย่างไรก็ดี คุณเป็นคนที่เชื่อมั่นตัวเองและภาคภูมิใจกับผลงานของคุณเสมอ การได้ปรากฎตัวตามสถานที่ต่างๆ เป็นส่งที่คุณชอบ เพราะคุณ เป็นคนตามใจเพื่อน ใครจะชวนไปไหนไม่เคยขัด แต่ถ้าคุณต้องวุ่นอยู่กับการทำผม และแต่งหน้ามากไปจะทำให้คุณเป็นบ้า เพราะบางครั้งคุณอยากปล่อยเนื้อปล่อยตัวตามสบายบ้าง ดังนั้นน้ำหอมกลิ่นที่เหมาะกับคุณ ควรเป็นกลิ่นที่ติดทนนานเหมือนกลิ่นดอกไม้ ยามเมื่อต้องกับแสงตะวัน เป็นกลิ่นต้นไม้ใบหญ้าสด ผสมด้วยกลิ่นของผลไม้เปรี้ยว
Virgo ราศีกันย์ (24 สิงหาคม - 23 กันยายน) เป็นราศีของสาวบริสุทธิ์ แต่ตัวคุณไม่บริสุทธิ์เหมือนราศีเกิด เพราะคุณมีความเซ็กซี่แอบแฝงอยู่เบื้องหลัง คุณจะยอมปล่อยใจให้เคลิบเคลิ้มไปกับหนุ่มสาวที่คุณเลือกแล้วเท่านั้น คุณเป็นคนหัวแข็งลองปักใจเชื่อเรื่องอะไรแล้ว จะไม่ยอมเปลี่ยนความคิดเด็ดขาด ยังดีนะที่คุณเลือกเชื่อแต่ในเรื่องที่สมเหตุสมผล และเป็นเรื่องที่มีมูลของความจริง แม้ว่าเหตุผลที่ว่านั้นเป็นเหตุผลของคนอื่น ไม่ได้ออกมาจากสมองของคุณก็ตาม ชาวราศีนี้มีสัญชาตญาณของความเป็นครู และคุณเป็นคนที่เอาจริงเอาจังมาก บางทีคุณเป็นคนเลือดร้อนเกินเหตุ เนื่องจากความสับสนกระวนกระวายใจนั่นเอง กลิ่นหอมที่เหมาะกับคุณควรเป็นกลิ่นเย็นๆ ที่ไม่มีความหวือหวามาก
Libra ราศีตุลย์ (24 กันยายน - 23 ตุลาคม) "เสน่ห์" คือจุดเด่นของชาวราศีนี้ คุณชอบทำเรื่องยากให้กลายเป็นเรื่องง่าย มีความคิดที่จะประนีประนอมยอมตาม และมักจะพูดในสิ่งถูกต้องเพื่อทำให้คนอื่นสบายใจ เมื่อต้องเผชิญกับปัญหา ที่ต้องตัดสินใจในเรื่องใหญ่ๆ คุณต้องไตร่ตรองถึงผลดีและผลเสีย ด้วยความยุติธรรม และนำมาประเมินผลอีกครั้ง เพื่อหาทางออกวิธีอื่น สิ่งนี้เองที่ทำให้คุณตัดสินใจล่าช้า ไม่รู้จะเอายังไงกันแน่ เพราะคุณชอบทำอะไรด้วยตัวเอง ไม่หวังพึ่งใคร ความคิดที่เป็นขั้นตอนนี้เอง ทำให้คุณมีลักษณะบางอย่าง ที่ทำให้เพศตรงข้ามสนใจ กลิ่นหอมที่เหมาะกับชาวราศีนี้ ควรเป็นกลิ่นที่มีความอบอวล ของพรรณไม้จากดินแดนตะวันออก
Scorpio ราศีพิจิก (24 ตุลาคม - 22 พฤศจิกายน) ชาวราศีนี้เป็นคนที่เข้าใจยากที่สุดในจักรราศี เพราะคุณเป็นคนที่ชอบเก็บความลับไว้กับตัวเอง ไม่ชอบแพร่งพรายให้คนอื่นได้รู้ และสิ่งต่างๆ ที่คุณเก็บไว้นี้จะกลายเป็นตำนานชีวิต คุณที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน คุณเป็นคนดื้อรั้นไม่ยอมเชื่อใครง่ายๆ และเมื่อใดที่คุณติดใจต้องการทำอะไรขึ้นมาใครๆ ก็ฉุดคุณไว้ไม่อยู่ ชาวราศีนี้เป็นสัญลักษณ์ทางเพศแห่งจักรราศี เป็นคนมีอารมณ์รุนแรงในเรื่องของเซ็กซ์ แต่ก็เป็นคนช่างเลือกนะ ไม่ใช่ใจง่ายอย่างที่คิด ถ้าลองถูกใจขึ้นมาแล้ว ไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่ายๆ ดังนั้น น้ำหอมที่มีกลิ่นหวานๆ ไม่เหมาะกับคุณเลย คุณควรเลือกกลิ่นที่ลึกลับ เป็นกลิ่นหอม มาจากแดนไกล และเป็นกลิ่นฉุนติดตัวไปทั้งวัน เป็นกลิ่นที่อบอวลของพรรณไม้ผสมด้วยกลิ่นชะมด และกลิ่นเปลือกไม้ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น
Sagittarius ราศีธนู (23 พฤศจิกายน - 21 ธันวาคม) คุณเป็นคนที่รู้จักปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าคุณจะอยู่ใกล้ใคร คุณปรับตัวเข้ากับคนนั้นได้เสมอ เพราะคุณรู้จักวิธีผูกมิตร โดยเฉพาะกับเพื่อนต่างเพศคุณสันทัดมาก เพื่อนต่างเพศมักคิดว่าการได้อยู่ใกล้คุณ จะรู้สึกสดชื่นเหมือนยืนอยู่บนเนินเขา แต่บางครั้งคุณก็หมดความอดทนเอาดื้อๆ และกลายเป็นคนพูดจาขวานผ่าซาก สิ่งที่คุณโปรดปรานมากคือการออกไปเที่ยวนอกบ้าน เพราะคุณเป็นคนประเภทอยู่ไม่ติดบ้าน กลิ่นหอมที่เหมาะกับคุณ ควรเป็นกลิ่นที่โชยมาตามสายลม อันเป็นกลิ่นของดอกไม้สด ผสมกลิ่นของดอกไม้
Capricorn ราศีมังกร (22 ธันวาคม - 20 มกราคม) ชาวราศีนี้จะได้อะไรมาแต่ละครั้ง ต้องใช้วิธีการที่แยบยลคลาสสิค คุณตั้งเป้าหมายของชีวิตไว้สูง และพยายามลุ้นให้ถึงเป้า ซึ่งใครก็รู้ว่าคุณมีแรงผลักดันระดับไหน เมื่อคุณคิดที่จะทำการใดๆ คุณทำด้วยความฉลาด และใช้ความสามารถสุดเหวี่ยง คุณไม่ชอบขยายเรื่องส่วนตัวของคุณให้คนอื่นฟัง ดูเผินๆ คุณเป็นคนเงียบๆ ติ๋มๆ ในเรื่องเพศ แต่แท้จริงแล้ว คุณจะเป็นผู้เผด็จสวาทเพศตรงข้าม และถ้าคุณชอบน้ำหอมกลิ่นใด คุณจะใช้น้ำหอมกลิ่นนั้นไปตลอดไม่ยอมเปลี่ยน ดังนั้น น้ำหอมที่คุณควรเลือก ต้องเป็นกลิ่นพิเศษไม่ธรรมดา
Aquarius ราศีกุมภ์ (21 มกราคม - 20 กุมภาพันธ์) คุณเป็นคนที่เข้ากับคนง่าย และเข้ากับคนได้ทุกชั้นวรรณะ แต่คุณเลือกเพื่อนดีๆ ไว้คบค้ากันตลอดชีวิตเพียงไม่กี่คน บางครั้งคุณทำอะไรเหมือนคนไม่เต็มๆ เพราะคุณยึดแนวคิดและอุดมการณ์มากไป และพยายามเอาอุดมการณ์ของคุณมาใช้กับคนอื่น เพศตรงข้ามมักคิดว่าคุณเป็นคนน่าคบและเป็นคนน่าทึ่ง เมื่อใดที่คุณอยากทดลองทำอะไรแล้วคุณต้องทำให้ได้ น้ำหอมที่เหมาะกับคุณควรเป็นกลิ่นของกำยานจากแดนตะวันออก Pisces ราศีมีน (21 กุมภาพันธ์ - 20 มีนาคม) ราศีสุดท้ายในจักรราศีเป็นรูปปลาคู่ คุณเป็นคนท่าทางไร้เดียงสาและน่าเชื่อถือ รูปปลาคู่เป็นสัญลักษณ์ของคนที่มีสองลักษณะในตัวคนๆ เดียว คือคุณเป็นคนคล่องงานและเป็นคนมีจินตนาการ ซึ่งมักทำให้คนอื่นเข้าใจว่าคุณเป็นคนบอบบางและเป็นคนอ่อนไหว คุณเป็นคนรักและหวงแหนข้าวของและสมบัติของคุณ โดยเฉพาะเมื่อใดที่คุณตกหลุมรัก คุณจะยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ความรักของคุณเป็นอมตะนิรันดร์กาล กลิ่นหอมที่เหมาะกับคุณ ควรเป็นกลิ่นเบาบางของดอกไม้เล็กๆ กระจุ๋มกระจิ๋ม ที่ปนกลิ่นหอมที่เซ็กซี่

''ตำนานเจ้าแม่กวนอิม''

พระโพธิสัตว์กวนอิม หรือที่คนไทยเราเรียกกันทั่วไปว่า เจ้าแม่กวนอิม เข้ามาในประเทศไทย พร้อมกับการเผยแพร่พระพุทธศาสนานิกายมหายาน นิยมเรียกชื่อหลายชื่อ เช่น กวนอิมผู่สัก เดิมเรียกว่า กวนซีอิมผู่สัก แต่เนื่องจากมีเสียงไปพร้องกับ หลี่ซีหมิงจักรพรรดิจีนสมัยราชวงศ์ถัง จึงตัดคำว่า ซี ออกเหลือเพียง กวนอิมผู่สัก (ผู่สัก แปลว่า พระโพธิสัตว์)ไต่ซื้อ ไต่ปุยผู่สัก หมายถึงพระโพธิสัตว์กวนอิม ผู้ทรงเมตตากรุณาอันยิ่งใหญ่ ด้วยทรงมีปณิธานอันยิ่งใหญ่ที่จะช่วยเหลือสรรพสัตว์ที่ตกอยู่ในห้วงทุกข์แห่งขั้น “หากยังมีสัตว์โลกตกทุกข์ได้ยาก แม้เพียงคนเดียว จะไม่ขอบรรลุพุทธภูมิ” พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ อวโลกิเตศวรประกอบด้วย อวโลกิตะ หมายถึง ผู้มองมายังเบื้องล่าง และ อิศวรแปลว่า ผู้เป็นใหญ่ มักแปลรวมว่า ผู้เพ่งมองปริเวทนาของมวลสรรพสัตว์ ในสายตาของชาวพุทธท่านจะเป็น “กวนอิมโพธิสัตว์พระผู้เมตตามหาการุณย์ช่วยเหลือสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์” เรื่องราวของพระอวโลกิเตศวรเมื่อแรกเข้าสู่ประเทศจีนรวม พ.ศ.610 ในสมัยพระเจ้าฮั่นเม่งตี้ จักรพรรดิองศ์ที่ 17 แห่งราชวงศ์ฮั่น ยังเป็นมหาบุรุษ จนถึงปลายราชวงศ์ใต้-เหนือ(หนานเป่ยเฉา)ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่บ้านเมืองวุ่นวายถึงขั้นมิคสัญญี พระพุทธศาสนากลับได้รับการนับถืออย่างมากโดยเริ่มจากภาคเหนือแผ่ลงใต้ ในช่วงปีพ.ศ.990 คนจีนในภาคเหนือ 9 ใน 10 คน นับถือพุทธศาสนา และในสมัยราชวงศ์เป่ยเว่ยนี่เองที่มีการเจาะภูเขา สลักและประดับ พระพุทธรูปด้วยของมีค่ามากมาย ที่หยุนกัง และหลงเหมิน ช่วงนี้เองที่พระอวโลกิเตศวรได้เปลี่ยนเป็นสตรีเพศ ซึ่งสอดรับกับความต้องการความเมตตากรุณาที่ได้รับความทุกข์ยากจากการกดขี่ทารุณและการทำสงคราม การเปลี่ยนจากมหาบุรุษมาเป็นสตรีเพศของอวโลกิเตศวรพระโพธิสัตว์ ตามคัมภีร์ได้กล่าวว่าท่านสามารถแปลงจากธรรมกายเดิมไปได้อีก 32 ธรรมกาย แต่ตามประวัติศาสตร์เชื่อว่าเกิดจากความพยายามที่จะรอดพ้นจากการกลืนกลายของลัทธิเต๋าจึงทำให้เกิดพระโพธิสัตว์ที่เป็นหญิง ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน ในหนึ่งปีมีวันสำคัญของท่าน 3 วัน คือ วันประสูติ วันที่ 19 เดือน 2 วันตรัสรู้ วันที่ 19 เดือน 6 และวันออกบวช วันที่ 19 เดือน 9
เนื่องจากพระโพธิสัตว์กวนอิม เป็นพระโพธิสัตว์ที่เมตตากรุณา จึงเป็นที่เคารพบูชาของมหาชนในหลายประเทศทั่วเอเชียนับแต่โบราณ ทำให้ตำนานของพระโพธิสัตว์กวนอิม มีความเป็นมาหลากหลายตำนานพื้นบ้านที่นิยมกล่าวขานถึงก็คือ ตำนาน “เมี่ยวชันบรรลุธรรม” และในการสร้างรูปเคารพท่านมักจะมีเด็กหญิงชายคู่หนึ่งอยู่ข้างกาย เรียก “กิมท้งเง็กนึ่ง” เด็กหญิงคือ หลงหนี่ เป็นธิดาพญามังกรมีสติปัญญามาแต่เล็ก อายุ 8 ขวบก็สำเร็จเป็นพุทธะ (มีดวงตาเห็นธรรม-ผู้เรียบเรียง)และช่วยพระโพธิสัตว์กวนอิมโปรดเวไนยสัตว์ ปรากฏกาย เป็นกุมารีอยู่ทางด้านขวา เด็กชายคือ ชั่งไฉถงจื่อ(สุธนกุมาร) เป็นบุตรเศรษฐีคนหนึ่งในบุญนคร เกิดมามีทรัพย์สินเงินทองมากมาย แต่ก็เห็นเป็นสิ่งไร้ค่า ปฏิญาณตนว่าจะบำเพ็ญให้สำเร็จเป็นพระโพธิสัตว์ สุธนกุมารได้รับคำแนะนำจากมัญชูศรีโพธิสัตว์ให้ไปคารวะศึกษาจากอาจารย์ 53 ท่าน(กัลยาณมิตร 53)สุดท้ายได้รับกราบพระโพธิสัตว์กวนอิมเป็นอาจารย์ที่โปตะละกะคีรี จนสำเร็จเป็นโพธิสัตว์และเพื่อช่วยเหลืออาจารย์โปรดเวไนยสัตว์จึงแสดงธรรมกายเป็นกุมาร อยู่ทางด้านซ้าย ตำนานพื้นบ้านของพระโพธิสัตว์กวนอิมที่เล่าสืบกันมามีดังนี้ ได้เล่าขานกันมาว่า เจ้าแม่กวนอิม เดิมกำเนิดเป็นเจ้าหญิงชื่อว่าเจ้าหญิงเมี่ยวชัน ราชธิดาองค์เล็กของกษัตริย์เมี่ยวจวง แห่งอาณาจักรซิงหลิง เจ้าหญิงเมี่ยวซันมีนิสัยเมตตากรุณาต่อสัตว์ทั้งหลายตั้งแต่เด็ก มีพระทัยใฝ่ใจที่จะออกบวช เพื่อพ้นจากทุกข์ตามคำสอนของพระพุทธศาสนา แต่พระบิดาคือ กษัตริย์เมี่ยวจวง ผู้มีจิตใจโหดร้ายชอบการเข่นฆ่าและทำสงครามไม่ยินยอม กลับบังคับให้เจ้าหญิงเมี่ยวชันเลือกคู่ครอง เจ้าหญิงเมี่ยวชันก็ยืนกรานที่จะออกบวช ไม่ว่าพระบิดาจะใช้อุบายต่างๆนานามาหลอกล่อเกลี้ยกล่อมอย่างไรก็ไม่สำเร็จจึงเกิดพิโรธที่มีผู้ขัดต่ออำนาจของตนจึงได้ประหารเจ้าหญิงเมี่ยวชันด้วยการรัดคอ ทันทีที่เจ้าหญิงเมี่ยวชันสิ้นลม พระภูมิเจ้าที่ได้แปลงร่างเป็นเสือมารับร่างเจ้าหญิงเป็นอยู่ที่เกาะศักดิ์สิทธิ์แห่งทะเลตะวันออกที่นั้นเจ้าหญิงเมี่ยวชันได้บำเพ็ญภาวนาจนบรรลุโพธิญาณรู้แจ้งในสัจธรรม ต่อมากษัตริย์เมี่ยวจวงได้เกิดเป็นโรคผิวหนังเกิดแผลเน่าทั้งกายรักษาอย่างไรก็ไม่หาย เจ้าหญิงเมี่ยวชันได้ทราบด้วยญาณว่าพระบิดาป่วยด้วยผลแห่งกรรมที่ทำมาและเห็นหนทางที่จะนำพระบิดาได้ก้าวพ้นทุกข์ได้จึงได้ให้หลวงจีนชันไฉ่ไปอาสารักษาโรคโดยสละดวงตาและแขนทั้งสองข้างของตนเพื่อปรุงยา เมื่อกษัตริย์เมี่ยวจวงได้หายจากโรคจึงได้สำนึกในบาปกรรมที่ตนได้ทำไว้ เลิกทำบาปหันมาสร้างกุศล ต่อมาได้สละราชสมบัติดั้นด้นเดินทางมาหาเซียนผู้เสียสละดวงตาและแขนเพื่อปรุงยาโดยไม่รู้ว่าเซียนผู้นั้นคือใคร เมื่อรู้ว่าเซียนผู้อุทิศแขนและดวงตามารักษาตนนั้นคือเจ้าหญิงเมี่ยวชัน ธิดาผู้ที่ตนสั่งประหารชีวิตก็สะเทือนใจสำนึกในบาปบุญคุณโทษ เกิดดวงตาเห็นธรรม ด้วยบุญกุศลที่เจ้าหญิงเมี่ยวชันได้บำเพ็ญเพียร บันดาลให้ดวงตาและแขนที่สละไปแล้วกลับงอกขึ้นมาดังเดิม และนับจากนั้นมาเจ้าหญิงเมี่ยวชันก็ได้เป็นพระโพธิสัตว์กวนอิม พระผู้ช่วยให้สัตว์รอดพ้นความทุกข์เดือดร้อน เป็นผู้ได้ปริเวทนาแห่งสัตว์โลก(อวโลกิเตศวร) และเป็นที่เคารพ กราบไหว้ สืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้
การศึกษาประวัติเจ้าแม่กวนอิม ควรทำความเข้าใจว่า เป็นการศึกษาประวัติพระโพธิสัตว์ ซึ่งจะเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต และอย่าหยุดเพียงแค่นี้ ควรศึกษาธรรมะหรือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าด้วย จะทำให้จิต-ปัญญาเราปลอดโปร่ง เป็นอิสรไม่ยึดติดเพียงแค่พระโพธิสัตว์

น้ำผักปั่น...เพื่อสุขภาพ


คุณสมบัติของน้ำผักเรื่อง : ชมรมบ้านสุขภาพในน้ำผักเป็นกรดอ่อน ๆ ที่มี คลอโรฟิลล์ ( Chlorophyll สารสีเขียวในพืช ) มีวิตามินเอ วิตามินซี ธาตุเหล็ก โปแตสเซียม แมกนีเซียม และฟอสฟอรัส ซึ่งเมื่อทานเข้าไป จะเกิดการแลกเปลี่ยนการใช้สารอาหารได้สูงสุด ณ จุดที่ร่างกายสามารถนำของ เสียทิ้งได้ทั้งหมด และทำให้ร่างกายสร้างพลังงานในแต่ละเซลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และส่งผลให้เกิดการ สร้างเซลใหม่ทดแทนเซลเก่าที่ตายในแต่ละวันได้เต็มที่ ลักษณะนี้คือ ปัจจัยสูงสุดที่ร่างกาย จะไม่เกิดความอ่อนแอ ในทุกอวัยวะดังนั้นเมื่อไปอยู่ในประเทศไหนก็แล้วแต่ ถ้าได้สัดส่วนของสารอาหารออกมาเป็นกรดอ่อน มีคลอโรฟิลล์แล้วมีสารอาหารพวกโปแตสเซียม แมกนีเซียม แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก ครบ 5 ตัวนี้ ในค่า pH = 4 และมีคลอโรฟิลล์ มีวิตามินเอ และวิตามินซี ซึ่งจะทำให้ร่างกายสามารถมีอาหารได้เต็มที่ในแต่ละเซล ถ้าทุกเซลแข็งแรงไม่มีเซลตายก็ไม่แก่เลยถ้าค่า pH เป็น "กรดเกินไป" การใช้แคลเซียมก็จะยาก "กรดอ่อน" ทำให้เกิดการใช้ไขมัน ทำให้ไขมันถูกย่อยสลายได้เร็ว ถ้าเป็น "ด่างเกินไป" การย่อยสลายไขมันก็ทำได้น้อย ไขมันคือของแข็งที่มีปริมาณถึง 60% ของของแข็งทั้งหมดในร่างกาย ไขมันคือตัวที่จะไปเปลี่ยนเป็นน้ำหล่อเลี้ยง น้ำเมือกที่ไปหล่อเลี้ยงตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย น้ำไขข้อ เป็นไขกระดูก เป็นกล้ามเนื้อ เป็นกระดูก เส้นเอ็น ไขมันหล่อเลี้ยงเส้นผมเป็นลำดับ

อานุภาพแห่งพลังจิตใต้สำนึก

อานุภาพแห่งพลังจิตใต้สำนึก
รวบรวมจาก หนังสือ “พลังจิตใต้สำนึก”
โดย Dr Joseph Murphy
1. คุณเกิดมาเพื่อชัยชนะ และฟันฝ่าอุปสรรคทั้งหลายทั้งปวงด้วยพลังที่ทรงอานุภาพภายในกาย ซึ่งรอให้คุณปลุกขึ้นมาใช้ประโยขน์
2. จงสร้างภาพแห่งความสำเร็จ และตระหนักถึงจุดมุ่งหมายในชีวิต จากนั้นจิตใต้สำนึกก็จะสนองตอบและผลักดันให้คุณบรรลุถึงซึ่งความสำเร็จ
3. แนวคิดต่างๆล้วนถูกลำเลียงสู่จิตใต้สำนึก ด้วยการกล่าวย้ำซ้ำทวน รวมทั้งการมีความเชื่อมั่น และคาดหวัง
4. กฎแห่งจิตใต้สำนึกไม่มีวันล้มเหลว และอะไรก็ตามที่ประทับลงไปในนั้น มันจะทำให้ ปรากฎเป็นจริงขึ้นมา
5. คุณร่ำรวยเพราะสิ่งที่มีอยู่ภายใน... ทุกอย่างเป็นไปตามความเชื่อของคุณนั่นเอง
6. สูตรมหัศจรรย์แห่งความสำเร็จ คือการกล่าวย้ำซ้ำเตือนด้วยอารมณ์ความรู้สึกว่า.....”พระเจ้าทรงชี้แนะวิถีทางที่ดีกว่าเพื่อให้ฉันได้มีโอกาสรับใช้มนุษยชาติ
7. “ฉันเคารพ และอัญเชิญพระเจ้ามาประดิษฐานอยู่ที่ศูนย์กลางกาย ฉันดำรงรักษาไว้ซึ่งความมีสุขภาพดี ความเลื่อมใสศรัทธา และเคารพยำเกรงต่อสภาวะแห่งความประเสริฐสุดภายในกาย”
8. จงตัดสินใจควบคุมชีวิตของเราเอง และคิดอย่างสร้างสรรค์ตามแนวทางของพระเจ้า เพื่อมิให้ต้องพบกับการแกว่งไกวของโชคเคราะห์
9. จงเดินทางเข้าไปในจิตวิญญาณ แล้วคุณจะค้นพบความร่ำรวยแห่งสวรรค์ แฝงฝังอยู่ในส่วนลึก
10. จงปรับคลื่นเข้าสู่พลังอันไร้ของเขต พร้อมกับล่วงรู้และรู้สึกว่าพลังไร้ขอบเขตเบื้องบนได้กำหนด ควบคุมและชี้นำชีวิต แล้วคุณจะถูกนำไปสู่ชีวิตที่สร้างสรรค์และสมดุล เป็นอิสระหลุดพ้นจากการแกว่งไกวอย่างรุนแรงของโชคชะตา
11. เราสามารถหนุนเนื่องตัวเองให้อยู่เหนือภาวะจำยอม และพันธนาการทั้งหลาย ของมวลแห่งจิตใจ ด้วยการอัญเชิญพระเจ้าเข้ามาอยู่ในจิตใจ และตระหนักว่า ความรักของพระองค์ อาบไร้จิตวิญญาณ ส่วนปัญญานั้นชโลมความคิดของคุณ
12. ความร่ำรวยเริ่มต้นที่ตัวคุณ ความคิดและความรู้สึกเป็นผู้สร้างโชคชะตา พลังอำนาจ คุณสมบัติ และศักยภาพต่างๆ แห่งพระเจ้า ถูกปิดกั้นอยู่ภายในจิตใต้สำนึก และคุณมีกุญแจที่เปิดเข้าสู่ขุมทรัพย์ภายใน นั่นก็คือ “ความคิดของคุณเอง”
13. มีพลังซ่อนเร้นอยู่ในตัวเราซึ่งสามารถหนุนเนื่องให้หลุดพ้นจากความเจ็บไข้ได้ป่วย จัดวางคุณไว้บนเส้นทางสู่ความสุขสงบและพรอันประเสริฐทั้งมวลแห่งชีวิต
14. มิใช่พายุ แต่เป็นใบเรือที่กำหนดทิศทางเรือฉันใด ความคิด ความรู้สึก และภาพจินตนาการของคุณ ที่กำหนดอนาคต และนำความร่ำรวยมาสู่ชีวิต
15. ความเชื่อมั่นศรัทธาคือการคาดหมาย อย่างมั่นใจว่า ภาพจินตนาการที่คุณสร้างขึ้นในใจจะกลายเป็นจริง
16. จงเติมจิตสำนึกด้วยสัจธรรมแห่งพระเจ้า แล้วคุณจะลบล้างและถอนรากถอนโคนรูปแบบในทางทำลายออกไปจากจิตใต้สำนึกได้อย่างหมดสิ้น
17. การปรากฎของพระเจ้านั้น มาในรูปแบบของระเบียบวินัย ความสอดคล้องกลมกลืน สุขสงบ ความรัก การมีสุขภาพแข็งแรง และความเพียบพร้อม
18. จิตของพวกเราเป็นหนึ่งเดียว จิตไม่อยู่ในเงื่อนไขของเวลาและระยะทาง
19. เราสามารถพัฒนาประสาทสัมผัสพิเศษ โดยการถ่ายทอดแนวความคิดนี้ลงสู่จิตใต้สำนึก อันเป็นรากฐานที่ตั้งของประสาทสัมผัสพิเศษทั้งหลายทั้งปวง
20. หน้าที่หลักของมนุษย์ คือการเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า
21. จงทำตัวให้ใกล้ชิดพระเจ้า แล้วพระองค์จะใกล้ชิดท่าน
22. ทุกๆสิ่งเกิดขึ้นเป็นคู่เสมอ เช่นกลางวัน-กลางคืน รุ่งเรือง-เสื่อมถอย, เหนือ-ใต้, ชาย-หญิง, สร้างสรรค์-ทำลาย, ใน-นอก, หวาน-ขม, หยุดนิ่ง-เคลื่อนไหว, ดีใจ-เสียใจ
23. ความคิดของคุณ เกิดขึ้นเป็นคู่เสมอ ความคิดที่มาจากประสาทสัมผัสทั้ง 5 ต้องมลายไป และความคิดที่มีอยู่ในพระเจ้า จะต้องถูกฟื้นฟูและดำรงอยู่ในตัวคุณ
24. จงแนบชิดสนิทกับพระเจ้า แล้วคุณจะมีจิตใจที่เยือกเย็นบรรลุถึงความมุ่งมาดปรารถนาทั้งมวล
25. ความสงบเย็นและความสันติสุขของพระเจ้า รอคอยอยู่หน้าประตูแห่งจิตวิญญาณของคุณตลอดเวลา
26. คุณเกิดมาในโลกนี้เพื่อแสดงตัวเองออกมาอย่างเต็มที่ในสิ่งที่อยากทำ
27. คุณเป็นแม่พิมพ์ ผู้กำหนดรูปแบบและสร้างโชคชะตาตนเองด้วยวิถีแห่งความคิด
28. จิตใต้สำนึกของคุณ ตอบสนองต่อธรรมชาติแห่งความคิดและจินตนาการของจิตสำนึก
29. จงเรียกร้องต่อความเฉลียวฉลาดไร้ขอบเขตภายใน ให้แสดงแนวคิดสร้างสรรค์แปลกใหม่อย่างชัดเจน.......จงเชื่อมั่น เพราะสิ่งต่างๆล้วนเป็นไปตามความเชื่อของคุณ
30. เจตนารมณ์ของพระเจ้า ก็คือให้คุณมีชีวิตที่มั่งคั่งสมบูรณ์ในโลกนี้
31. จิตแห่งสากลจักรวาล มีช่องทางนับพันๆล้านในการอำนวยพรอันประเสริฐ และคุณคือช่องทางของพระเจ้า จงยอมรับความดีงาม ของคุณเสียแต่บัดนี้
32. ถ้าใครบางคนชี้แนะว่า คุณเกิดมาเพื่อความสำเร็จหรือมีชัยชนะเหนือปัญหาชีวิตทั้งหลาย และคุณยอมรับสิ่งนี้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยปราศจากความเคลือบแคลงแม้แต่น้อย ความมหัศจรรย์ ก็จะปรากฎขึ้นในชีวิตคุณ
33. จงมองให้เหนือกว่าภาพที่ปรากฏ และมุ่งมั่นอยู่กับความปรารถนาให้สิ่งที่มุ่งหมายกลายเป็นจริง แล้วคุณจะทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้
34. จงเชื่อมั่นในความดีงามแห่งพระเจ้า เชื่อในแรงบันดาลใจ เชื่อในชีวิตที่มั่งคั่งยิ่งๆขึ้นไป
35. คุณคือท่อธารแห่งพระเจ้า ดังนั้นความร่ำรวยจะหลั่งไหลผ่านตัวคุณโดยไม่จำกัด
36. จงเชื่อมั่นว่า คุณคือบุตรแห่งพระเจ้า และเชื่อว่าคุณได้รับถ่ายทอดคุณสมบัติและพลังอันไร้ขอบเขตแห่งพระเจ้า หากยึดมั่นความเชื่อนี้ไว้อย่างเหนี่ยวแน่น ก็จะสามารถสร้างความมหัศจรรย์ให้กับชีวิต จงเชื่อมั่นว่าคุณสามารถทำสิ่งต่างๆให้สำเร็จลงได้ด้วยพลังอำนาจ อันเข้มแข็งแห่งพระเจ้าที่ส่งผ่านตัวคุณ
37. ถ้าคุณกล่าวกับภูเขาแห่งความยากลำบาก อุปสรรค ปัญหา ให้เคลื่อนย้ายด้วยความเชื่อมั่นว่าพลังอันไร้ของเขตสามารถดลบันดาล มันก็จะกลายเป็นจริง
38. ทั้งหมดล้วนเป็นไปตามความเชื่อของคุณ จงเชื่อมั่นว่า พลังอันไร้ของเขตของพระเจ้า.......สรรพสิ่งล้วนเป็นไปได้ทั้งสิ้น
39. ศรัทธาที่แน่นเหนียว การคาดหมายที่ยิ่งใหญ่ ไฟแห่งจินตนาการ
40. ศรัทธาบำบัด เกิดด้วยแรงศรัทธาเชื่อมั่น จิตวิญญาณบำบัด คือปฏิกิริยาที่สอดคล้องของจิตสำนึก และจิตใต้สำนึก เป็นการชี้นำอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ มันมิใช่สิ่งที่เราเชื่อมั่น แต่เป็นตัวความเชื่อมั่นเอง ที่ก่อเกิดพลังบำบัดอันน่าทึ่งขึ้นมา
41. จงแปลเปลี่ยนความคิด แล้วโชคชะตาของคุณจะเปลี่ยนไป
42. จงรู้สึกอยู่ตลอดเวลาว่าความรักของพระเจ้าห้อมล้อมคุณ
43. วิธีการซึมซับจิตใต้สำนึกของคุณไว้ด้วยความร่ำรวยอันมั่นคง ก็คือสงบจิต ระงับใจให้หลับไปทุกๆคืนพร้อมกับถ้อยคำที่ว่า “บัดนี้ความร่ำรวยเป็นของฉัน” แล้วความมหัศจรรย์จะเกิดขึ้นในชีวิต
44. ความศรัทธาในจิตใต้สำนึก ก็คือความร่ำรวยของคุณนั่นเอง
45. มีจิตดวงหนึ่ง เป็นจิตที่เป็นสากล ทุกสิ่งที่ดีงามมาจาก หรือถูกฝากไว้ที่จิตดวงนี้ คุณจะใช้ประโยชน์จากสิ่งที่อยู่ในจิตสากล โดยการปรับคลื่นเข้าไปหาเท่านั้น
46. “หากสูเจ้าต้องการความมั่งคั่ง สูเจ้าต้องไม่ครอบครอง”

19/1/52

ข้อคิดดี ๆ เพื่อชีวิต


* นึกว่าเสมอว่าการโกรธ 1 นาที จะทำให้ความทุกข์อยู่กับเธอ 3 ชั่วโมง* ถ้ายิ้มให้กับคนที่อยู่ในกระจก รับรองว่าเค้าต้องยิ้มตอบกลับมาทุกครั้งแน่!* หลับตานิ่งๆ ซัก 3 นาที เมื่อรู้สึกว่าอะไรตรงหน้ามันช่างยากจัง* ระหว่างแปรงฟันถ้าฮัมเพลงด้วยไปจนจบจะทำให้ฟันสะอาดขึ้น 2 เท่าแน่ะ* เคี้ยวข้าวแต่ละคำให้ช้าลง จากที่รสชาติธรรมดาก็จะอร่อยขึ้นเยอะ* ควรหัดพูดคำว่า ไม่เป็นไร ให้เคยปากมากกว่าการพูดคำว่า จะเอายังไง* สัตว์เลี้ยงที่บ้านเก็บความลับเก่ง เรื่องที่ไม่อยากให้คนอื่นรู้จึงเล่าให้มันฟังได้* อาหารที่ไม่ชอบกินตอนเด็ก ลองตักเข้าปากอีกที เผื่อจะกลายเป็นอาหารจานโปรด* เขียนชื่อคนที่เธอเกลียดใส่กระดาษแล้วฉีกทิ้งความเกลียดจะเบาบางลงเรื่อยๆ* ให้ปล่อยน้ำตาไหลโดยไม่ต้องเช็ด เมื่อน้ำตาแห้ง จะดูไม่ออกว่าเพิ่งร้องไห้มา* ก่อนจะซื้ออะไรก็ตาม ต้องคิดหาประโยชน์ของมันให้ได้อย่างน้อย 3 ข้อก่อน* ถึงเสื้อกางเกงในตู้จะมีอยู่น้อย แต่ถ้าสลับกันไปเรื่อยๆก็ดูเหมือนจะเยอะขึ้น* เลือกให้ของขวัญคนที่ไม่เคยได้ ดีกว่าคนได้เยอะจนจำชื่อคนให้ไม่หมด* ในวันที่รู้สึกเศร้าๆ เหงาๆ เดินไปซื้อดอกไม้ให้ตัวเองซักดอกแล้วจะดีขึ้น* แอบรักใครซักคน ยังไงก็ดีกว่าไม่เคยรู้ว่าความรู้สึก รัก เป็นยังไง* ถึงจะไม่ได้ออกไปไหน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแต่งตัวสวยๆ หล่อๆ ไม่ได้นี่* พยายามอ่านหนังสือทุกชนิดในมือให้จบเล่มอาจไม่สนุกแต่มีประโยชน์แฝงอยู่* วันที่ตื่นเช้าๆ ให้บิดขี้เกียจนานที่สุดเท่าที่จะทำนานได้ ถ้าขี้เกียจออกกำลังกายน่ะ* รู้รึเปล่าว่าดอกไม้ที่บานอยู่กับต้น ยังไงก็อยู่ได้นานกว่าบานในแจกัน* ทะเลาะกับใครๆ พร้อมรอยยิ้ม เรื่องราวจะจบง่ายกว่าที่คิดเยอะ* เอารูปตัวเองตอนเด็กๆ มาดูตอนเครียดอารมณ์จะดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ* พยายามหาข้อบกพร่องของคนที่เธออิจฉาอย่างน้อยก็มีข้อปลอบใจตัวเองบ้าง!* โทรไปหาแฟนแล้วพูดแคคำเดียวว่า คิดถึง พอวางสายแล้วต้องยิ้มทั้งคู่* ในวงสนทนาถ้ายังนึกไม่ออกว่าจะคุยอะไรรอยยิ้มช่วยแก้สถานการณ์ได้* ค่อยๆ เดินทอดน่องแบบสบายๆ ในวันที่ไม่มีธุระให้ต้องไปสะสาง* ซื้อของฝากทุกคนในบ้าน ก็เหมือนกับการซื้อของฝากตัวเองนั่นแหละ* จะหน้าตายังไงก็แล้วแต่ ถ้าทิ้งขยะลงพื้นก็กลายเป็นขี้เหร่ได้ทันตาเห็น* นั่งสมาธิให้นานๆ และบ่อยๆ ก็ทำให้ผิวสวยขึ้นได้เหมือนกัน* นอกจากตอนที่เคี้ยวข้าวแล้ว ไม่ว่าก่อนหรือหลังกินก็หัวเราะได้อร่อย* จินตนาการถึงเรื่องที่อยากมีหรืออยากเป็นคือยานอนหลับอย่างหนึ่ง* อ่านหนังสือหรือการ์ตูนโปรดเป็นการเติมน้ำมันให้ตัวเองอย่างดี* ยังไม่มีใครเคยแย้งว่า การอาบน้ำไม่สามารถคลายเครียดได้จริงๆ* ก่อนจะด่าใครให้นับ 1 ถึง 50 เผลอๆ อาจจะไม่อยากด่าแล้วก็ได้* ไม่ต้องทำยังไงกับเพื่อนที่หักหลังก็แค่อย่าเรียกเค้าว่าเพื่อนก็พอแล้ว* รักครั้งแรกส่วนใหญ่ก็อกหักทั้งนั้น น่าจะดีใจที่ไม่แปลกกว่าชาวบ้านเค้า* การที่ทำของหายอาจเป็นการใช้หนี้ของชาติที่แล้วให้คนอื่นที่เก็บมันได้* ถึงจะไม่มีเงินอยู่ในกระเป๋าซักบาท ยังดีกว่าไม่มีเสื้อผ้าให้ใส่ตั้งเยอะ* หนี้ที่โดนเบี้ยวไป ทำให้เรารู้จักใครบางคนดีขึ้นโดยไม่ต้องใช้เวลามาก* คนอื่นไม่เข้าใจเราไม่เห็นแปลก ในเมื่อเราก็ไม่เข้าใจคนอื่นเหมือนกัน* ไม่ต้องช่วยใครๆ ด่าตัวเอง ถ้าสิ่งที่ทำไปแน่ใจว่าพยายามเต็มที่แล้ว* วิ่งให้เหนื่อยมากๆ ความโกธรจะได้ถูกขับออกมาพร้อมกับเหงื่อ* ถ้ากลัวจะนอนฝันร้าย สวดมนต์ก่อนนอนเหมือนตอนเด็กๆ ดูสิ* ของฝากสำหรับคนห่างไกล คือการโผล่ไปเซอร์ไพรส์ด้วยตัวเอง* เพลงจังหวะมันๆ ทำให้คนฟังกระปรี้กระเปร่าได้โดยอัตโนมัติ* อย่าเดาว่าอะไรอยู่ในกล่องของขวัญ แล้วจะไม่รู้จักคำว่าผิดหวัง