21/4/52
Songkran
Songkran is a Thai word which means "move" or "change place" as it is the day when the sun changes its position in the zodiac. It is also known as the "Water Festival" as people believe that water will wash away bad luck.
The Songkran tradition is recognized as a valuable custom for the Thai community, society and religions. The value for family is to provide the opportunity for family members to gather in order to express their respects to the elders by pouring scented water onto the hands of their parents and grandparents and to present them gifts including making merits to dedicate the result to their ancestors. The elders in return wish the youngsters good luck and prosperity.
The values for community is to provide the opportunity to create unity in the community such as to jointly acquire merits, to meet each other and to enjoy the entertaining events. And for the society value is to create concern upon environment with cooperation such as to clean houses, temples, public places and official buildings. Thais value the religion bye means of merits acquisition, offerings alms to monks, Dhamma Practice, listening to sermon and monks-bathing.
In the afternoon, after performing a bathing rite for Buddha images and the monks, the celebrants both young and old, joyfully splash water oon each other. The most-talked about celebration takes place in the northern province of Chiang Mai where Songkran is celebrated from April 13 to 15. During this period, people from all parts of the country flock there to enjoy the water festival, to watch the Miss Songkran Contest and the beautiful parades.
วันสงกรานต์
"สงกรานต์"คือ วันขึ้นปีใหม่ ตามประเพณีไทย และเป็นโอกาสที่ สมาชิกในครอบครัว จะได้ พบกัน พร้อมหน้าพร้อมหน้า ในช่วงเวลานี้ ประชาชนผู้ซึ่ง เป็นคนต่างจังหวัด ที่มา ทำงานใน กรุงเทพมหานคร ส่วนใหญ่ ก็จะเดินทางไป ฉลองเทศกาลนี้ ที่บ้านเกิดของตน ดังนั้น เมื่อเทศกาลนี้ มาถึงกรุงเทพมหานคร ก็จะกลายเป็นเมืองร้างไปชั่วคราว
เทศกาลสงกรานต์ ตรงกับวันที่ 13 เมษายนและ การฉลอง ประจำปี ก็จะ จัดให้มี ขึ้นทั่ว ทั้งราชอาณาจักร ที่จริงแล้วคำว่า" สงกรานต์" นี้เป็น ภาษาไทย ซึ่งหมายถึง "เคลื่อนย้าย" หรือ เปลี่ยนที่ เพราะว่า เป็นวันที่ พระอาทิตย์ เปลี่ยนตำแหน่ง ในการจักรราศี นอกจากนี้ ยังเรียกว่า"เทศกาลน้ำ" อีกด้วย เพราะว่า ประชาชน เชื่อว่าน้ำ จะพัดพา เอาสิ่งที่เป็น อัปมงคล ออกไป
วันขึ้นปีใหม่ ตามประเพณี ของไทยนี้ เริ่มต้นแต่เช้าตรู่ ด้วยการทำบุญตักบาตร แก่พระสงฆ์ และ ปล่อยนก ที่ขังไว้ให้เป็นอิสระ ในช่วงวาระโอกาส อันเป็นมงคลนี้ สัตว์ต่างๆ ที่ถูกขังไว้ก็จะ ได้รับการปล่อยให้เป็นอิสระ การทำบุญตักบาตร ถือเป็น การสร้างบุญกุศล ให้ตัวเอง และ อุทิศส่วนกุศลนั้น แก่ผู้ล่วงลับไปแล้ว หลังจากทำบุญแล้ว จะมีการ ก่อพระทรายเข้าวัด ถือเป็นกุศลอย่างมาก ดังเช่น ภาคเหนือ มักนิยมขนทรายเข้าวัด เพื่อเป็น นิมิตโชคลาภ ให้มีความสุข ความเจริญ เงินทองไหลมาเทมา ดุจทรายที่ ขนเข้าวัด ส่วนการปล่อยนก ปล่อยปลา ถือเป็นการล้างบาป และ สะเดาะเคราะห์ให้ร้าย ให้หมดสิ้นไป มีแต่ ความสุขความเจริญ
พร้อมกันนี้ การไหว้บรรพบุรุษ ก็เป็น ส่วนสำคัญ ของวันนี้ด้วย ประชาชน จะแสดงความเคารพ ต่อผู้สูงอายุ และ ในทางกลับกัน ผู้สูงอายุ ก็จะอวยพรให้ ผู้น้อยประสบโชคดี และ เจริญรุ่งเรือง ในตอนบ่าย หลังจาก พิธีสรงน้ำ พระพุทธรูป และพระสงฆ์ แล้วผู้ร่วมฉลอง ทั้งหนุ่ม และแก่ ต่างสาดน้ำ ใส่กัน อย่างสนุกสนาน การฉลองที่มี คนกล่าวขานกัน มากที่สุด เห็นจะเป็นที่ จังหวัด ทางภาคเหนือ คือ เชียงใหม่ ซึ่งการฉลองที่นี่ จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 13- 15 เมษายน ช่วงเวลาที่ ประชาชนจาก ทั่วทุกภาค ของประเทศ จะแห่กันไป ที่นั่น เพื่อร่วมสนุกสาน ในเทศกาลน้ำนี้ เพื่อชม การประกวดนางงาม สงกรานต์ และ ขบวนพาเหรด ที่สวยงาม
3/3/52
ปิดฉาก อาเซียน ซัมมิท
1. แผนงานการจัดตั้งประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน
2. แผนงานการจัดตั้งประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
3. แผนงานข้อริเริ่มเพื่อการรวมตัวของอาเซียน ฉบับที่สอง ค.ศ. 2009-2015
4. ปฏิญญาร่วมว่าด้วยการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษในอาเซียน
5. แถลงการณ์ว่าด้วยความมั่นคงด้านอาหารในภูมิภาคอาเซียนรวมทั้งแผนนโยบายบูรณาการความมั่นคงด้านอาหารของอาเซียน และแผนกลยุทธ์ความมั่นคงด้านอาหารของอาเซียน
6. แถลงการณ์ว่าด้วยวิกฤตเศรษฐกิจและการเงินโลก
ต้นจันทน์หอม
กินแล้วอ่อนเยาว์
ทราบหรือไม่ว่า รับประทานอะไรแล้วอ่อนเยาว์ วันนี้มีมาฝาก....
1.หยุดผมร่วง รับประทานกล้วย ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินบี มีสรรพคุณป้องกันผมร่วงได้ดี การรับประทาน กล้วยเข้าไปในปริมาณที่เพียงพอ จะช่วยรักษาเส้นผมให้อยู่คู่กับหนังศีรษะได้นานวัน
2. ลดผิวมัน รับประทานธัญญาหารทุกเช้า ซึ่งอุดมด้วยวิตามินบี 2 ที่ช่วยหยุดยั้งการผลิตน้ำมันส่วนเกิน ของต่อมผลิตภายในร่างกายที่เป็นสาเหตุหนึ่งของเส้นผมบางและมัน
3. หยุดการลอกของผิวหนัง รับประทานปลาแซลมอนใส่เกลือรมควัน อาหารทะเล หรือสลัดผักสดก็ได้
4. ผิวเนียนใสเหมือนเด็ก รับประทานมะม่วง มีเบต้าแคโรทีนที่ช่วยทำให้ผิวมีสุขภาพดี โดยช่วยกระตุ้นการสร้าง ผิวหนัง รวมทั้งหนังศีรษะเพื่อทดแทนของเดิมที่หยาบแห้งและขรุขระ ให้กลับมีความชุ่มชื่นและนุ่มเนียน
5. ชะลอผมหงอก รับประทานถั่วลิสงอบเนยรวมกับเกล็ดขนมปังที่อบมาร้อน ๆ ก่อนมื้ออาหาร ถั่วลิสงมี วิตามินบีที่สามารถหยุดการเปลี่ยนสีผมได้ และยังทำให้ผิวหนังดูดีขึ้นอีกด้วย
6. ดูหนุ่มสาวขึ้นอีก 5 ปี รับประทานฝรั่ง หรือน้ำฝรั่งซึ่งอุดมด้วยวิตามินซี เพราะจะช่วยเก็บรักษา คอลลาเจนที่เป็นบ่อเกิดแห่งโปรตีนภายใต้ผิวหนัง หรือรับประทานมะละกอ ส้ม ลูกเกดสีดำอบแห้ง ร่วมกับ ผลไม้ประจำวันก็จะช่วยเพิ่มวิตามินซีเช่นกัน
7. ปกป้องใบหน้าจากมลพิษ วิตามินบีในอะโวคาโดช่วยทำให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย และร่างกายเกิดความ ต้านทานจากการทำลายในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งนี้รวมถึงการถูกทำลายจากบรรยากาศที่มลภาวะเป็นพิษ
รู้อย่างนี้แล้ว ถ้าอยากแลดูอ่อนเยาว์ ก็ควรเลือกรับประทานให้เหมาะสม.
20/2/52
ผู้นำไทย-อินโดฯ เห็นพ้อง แก้ปัญหาโรฮิงญาระดับภูมิภาค
ฝึกสมอง..ให้เป็นคนเก่ง
"การฝึกฝนทำให้คุณเป็นคนเก่ง" นี่คือคำกล่าวของนักประสาทวิทยาชาวสวีเดน โทร์เคล คลิงเบิร์ก ว่าคนเราควรทำอย่างไรให้ได้ข้อมูลและมีความเข้าใจมากที่สุดโดยที่เราไม่ต้องใช้สมองจนเกินกำลังหรือไม่ทำให้รู้สึกเบื่อหน่าย เนื่องจากสมองทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดในระยะเวลาที่จำกัด แต่เราก็มีวิธีที่จะใช้ศูนย์ความคิดของเราให้มีประโยชน์มากที่สุดเช่นกัน
Multitasking คุณกำลังเดินทางไปพบปะพูดคุยธุรกิจและระหว่างทางครุ่นคิดวิธีการเจรจาตกลงต่างๆ คุยโทรศัพท์หรือเขียนจดหมาย แต่การทำงานหลายๆอย่างในคราวเดียวกันมีความเสี่ยงกับความผิดพลาดในการส่งอีเมลล์ผิดให้กับคู่เจรจา ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำให้ทำงานหรือธุระใดๆก็ตามให้เป็นไปตามลำดับ อย่าทำงานหลายอย่างในคราวเดียวกันเพื่อป้องกันการผิดพลาด
สัญชาตญณบอกคุณได้ดีกว่าสมอง ในแต่ละวันเรามีเรื่องต้องตัดสินใจประมาณ 20,000 เรื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องในชั่วพริบตา และคนเป็นจำนวนมากที่ตัดสินใจโดยไม่รู้ตัว เช่น การทักทายและออกความเห็นในที่ประชุม โดยเฉพาะคนที่ทำงานในออฟฟิต ที่มีเงื่อนไขของเวลาเป็นเรงกดดันในการตัดสินใจ นักจิตวิทยาจึงแนะนำให้ฟังเสียงความรู้สึกของตัวเองหรือสัญชาตญาณที่เรานำไปใช้โดยไม่รู้ตัว ซึ่งก็ทำให้มีทางเลือกที่เร็วกว่าในการตัดสินใจแบบสายฟ้าแลบ เนื่องจากการตัดสินใจแบบในชั่วพริบตาจำเป็นต้องอาศัยประสบการณ์ แต่ในกรณีที่คุณต้องตัดสินใจเรื่องที่ไม่เชี่ยวชาญก็ควรปรึกษาและขอความเห็นจากผู้ใหญ่ที่มีความรู้และประสบการณ์จะดีกว่า
กลิ่นกาแฟช่วยกระตุ้นเซลล์สมอง หากจำเป็นต้องตื่นแต่เช้าเพราะมีงานด่วน ยังรู้สึกงัวเงีย สมองยังไม่แล่นเพราะนาฬิกาชีวิตยังปรับไม่ทันความจำเป็นของคุณ สิ่งที่จะช่วยได้ก็คือกาแฟสักหนึ่งถ้วยลำพังกลิ่นกาแฟในตอนเช้าก็มีผลกระตุ้นสมองให้ตื่นตัว นี่คือผลการศึกษาจากนักวิจัยชาวญี่ปุ่น เพื่อนร่วมงานของคุณก็คงจะยินดีที่จะได้กาแฟสักหนึ่งถ้วยจากคุณและคุณก็ยังได้สูดกลิ่นกาแฟไปด้วยการแข่งขันกระตุ้นสมอง ถ้าเรารู้ว่าเราต้องแข่งขันกับใครสักคน มันจะกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนไปทั่วบริเวณสมองหรือที่เรียกกันว่า "ศูนย์รับรางวัล" เพราะจากการศึกษาของมหาวิทยาลัยบอลล์ในประเทศเยอรมนี โดยการให้อาสาสมัครแข่งขันกัน หากใครตอบถูกจะได้รางวัล 120 ยูโร และมีการแสดงให้เห็นถึงปฏิกิริยาของสมองจากภาพสแกน ผลก็คือ มีเลือดไหลเวียนสูงสุดที่ศูนย์รับรางวัลของผู้เข้าแข่งขันระหว่างตอบคำถาม
สมาธิเพิ่มเมื่อมีงาน เสียงโทรศัพท์ ผู้ร่วมงานหัวเราะ มีอีเมล์ที่ต้องตอบ งานหลายๆอย่างประเดประดังเข้ามาใช้เวลาเกือบชั่วโมงกว่าคุณจะตั้งสมาธิได้ ทั้งนี้ นักจิตวิทยาชาวอังกฤษพบว่า การมีสมาธิขึ้นอยู่กับงานยากหรือง่าย หากเป็นงานยาก สมองก็จะมีสมาธิกับงานอย่างอัตโนมัติ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณมีอารมณ์เศร้า ก็อย่าจมปลักกับงานที่ทำเป็นประจำเพราะมันอันตรายกับสมองในการใช้งานเกินกำลัง คุณควรเรียนรู้สิ่งใหม่ๆบ้าง เพราะมีการพิสูจน์มาแล้วว่าโครงสร้างสมองของผู้ใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อได้เรียนสิ่งใหม่ๆและกระบวนการเรียนรู้ทุกอย่างจะเชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมองทำให้แข็งแรงขึ้น และยังก่อให้เกิดเซลล์ใหม่ๆด้วยซึ่งไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุ
สมองทำงานเหมือน Google จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียได้ตั้งข้อสันนิษฐานว่า เมื่อคนคิดถึงคำ ศูนย์ความคิดของคนเราจะทำหน้าที่คล้ายๆกับ Google คือคิดตามลำดับ เช่น 1 2 3
สมองต้องออกกำลัง แม้เราจะไม่ค่อยได้บริหารสมองด้วยการคำนวณหรือทายปริศนาอักษรไขว้ เราก็สามารถช่วยให้สมองฟิตได้ เพราะจากการศึกษาของมหาวิทยาลัยมิชิแกนได้ชี้ให้เห็นว่า การมีสังคมกับผู้คนสามารถช่วยให้สมองตื่นตัวได้เหมือนการบริหารสมอง
12/2/52
การทำบุญให้แก่ผู้ที่ตายไปแล้ว
วาเลนไทน์ในยุคก่อน
อย่างไรก็ตาม คนโรมันโบราณ ในวันแห่งความรัก ถ้าจะให้คู่รักมีอารมณ์โรแมนติก จะต้องเปิบนอ ฮิบโปโปเตมัส และดวงตาตัวไฮอีน่า ไม่ได้อธิบายคุณสมบัติ ว่าทำไมต้องทำเช่นนั้น นอกจากนี้ยังเผยว่า "ผลส้ม" เป็นสัญลักษณ์ วันวาเลนไทน์ ชาวยุโรปรุ่นก่อนเล่าว่า ส้มเป็นผลไม้ บำรุงสมรรถนะทางเพศ สร้างอารมณ์โรแมนติก และความพึงพอใจทางเพศ หากใครต้องการให้ คู่รักหลงใหล ต้องใช้เข็มแทงผลส้ม แล้วนำไปใส่ใต้รักแร้ นอนหลับหนึ่งคืนรุ่งเช้า ใครกินผลส้ม เข้าไป จะตก หลุมรักเจ้าของในทันที (ใครกล้ากินจริง ก็คงเรียกว่าหลงรัก หน้ามืดตามัวเลยนะเนี่ย) อย่างไรก็ตามเรื่องส้มนี้ จีนโบราณถือเป็นยากระตุ้นเซ็กซ์ จักรพรรดิจีน ชวนนางสนมเอกช่วยกัน หั่นส้มชิ้นบางๆ พร้อมกับโปรยดอกส้ม ทั่วเตียงบรรทม สำหรับผลไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ วันวาเลนไทน์ อื่นๆ ก็มีผลอาร์ทิโชคมีใบเป็นหนาม กล้วย และพืชจำพวกไทรมีผลคล้ายแพร์ ซึ่งเชื่อว่าช่วยบำรุง สมรรถภาพทางเพศ สมัยก่อนมีข้อห้าม การใช้ช็อกโกแลต ฉลองวันวาเลนไทน์ เพราะมันกระตุ้นต่อม น้ำลายมากเกินไป อย่างไรก็ตาม ต่อมาได้มีการพัฒนา นำดอกกุหลาบ และช็อกโกแลตมาใช้ฉลอง จนถึงปัจจุบัน เหล่านี้คือแง่มุมหนึ่งของวันวาเลนไทน์ในอดีต
Love หรือ รัก คำนี้ดูเหมือนจะเป็นคำ ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย แทบจะมากที่สุดเลย ก็ว่าได้ ไม่ว่าสังคมจะเปลี่ยนไปแค่ไหน แม้ว่าอะไรๆจะเปลี่ยนไปก็ตาม แต่เจ้าความรักนี่ ดูเหมือนจะ ไม่รู้จักคำว่าล้าสมัย เอาซะเลย ความรักทำให้คนเรา เป็นคนมากขึ้น มีอารมณ์ มีความรู้สึก มีความคิด และอะไรต่างๆอีกมากมาย ที่เกิดขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ เมื่ออยู่ในห้วงอารมณ์แห่งความรัก แต่ถ้าคนเรา ไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ เมื่ออยู่ในความรัก อาจจะเกิดผลเสีย มากกว่าผลดีก็ได้ เพราะฉะนั้น "จงรักให้เป็น" อย่าให้ความรักมีอำนาจเหนือตัวเรา
เช็กสเปียร์เคยกล่าวไว้ว่า "The course of true love never ran smooth. But if you can hold to the course, you can surmount the obstacles that life puts in theway" "ความรักย่อมมีอุปสรรค แต่อุปสรรคจะทำให้รักเรา มีความหมายมากขึ้น" อย่าท้อแท้กับความรักนะครับ......
> ราศีเมษต้องเลือกแบบที่หรูหราหน่อย เพราะชาวราศีเมษต้องการสิ่งที่ดีที่สุดเสมอสำหรับพวกเขา
> ราศีพฤษภชาวราศีพฤษภชอบช็อกโกแล็ตที่ใจกลางนุ่ม เช่น สอดไส้คาราเมลนี่เลิฟอย่าบอกใครเชียว
> ราศีเมถุนชาวราศีเมถุนจะชอบช็อโกแล็ตที่พกไปทานได้ง่ายๆ เพราะเป็นคนไม่อยู่กับที่ ชนิดที่เป็นแบบเม็ดเล็กๆ แล้วกดออกมาทานทีละนิดจะเวิร์กมาก
> ราศีกรกฎ ไม่ว่าจะเป็นช็อกโกแล็ตแบบไหน ชาวราศีกรกฎก็ชอบไปหมด เรียกว่าใบหน้าจะเต็มไปด้วยรอยยิ้มทุกครั้งที่ได้รับ
> ราศีสิงห์ มีเคล็ดนิดหน่อยเวลาจะให้ช็อกโกแล็ตชาวราศีสิงห์ คุณต้องมีวิธีการให้แบบเซอร์ไพส์ หรือจู่โจมถึงจะสร้างความประทับใจได้
> ราศีกันย์ คุณต้องแน่ใจว่าช็อกโกแล็ตที่จะให้สะอาด แสดงส่วนผสมชัดเจน และอยู่ใน***บห่อสวยงาม แล้วก็ต้องเป็นแบบที่เก็บไว้ได้นานาๆ ด้วยเพราะเขาจะกินมันครึ่งนึง แล้วเก็บที่เหลือไว้ในตู้เย็นอีกเป็นเดือน
> ราศีตุลย์ ชาวราศีตุลย์ชอบอะไรๆ ที่เป็นคู่ ดังนั้นคุณควรสร้างความประทับใจ ด้วยการหาซื้อช็อกโกแล็ตให้เขากล่องหนึ่ง แล้วก็สำหรับตัวเองเหมือนกันอีกกล่องด้วย
> ราศีพฤศจิกชาวราศีนี้เป็นคนที่ชอบกินช็อกโกแล็ตมาก โดยเฉพาะแบบที่ค่อนข้างเหลวหน่อย เพราะมีวิธีการกินที่ไม่เหมือนใคร ต้องค่อยๆ เลียเหมือนกินไอศครีม
> ราศีธนูชอบช็อกโกแล็ตแบบฝรั่งเศสเป็นที่สุดเลย ไม่รู้ว่าแบบฝรั่งเศสเป็นยังไงก็เลือกดูที่ Made in France แล้วกัน
> ราศีมังกรพวกนี้ชอบแต่ของที่ดีที่สุด และก็แพงที่สุดเท่านั้น ประเภทว่าถ้าไม่เริ่ดที่สุดก็ไม่มีทางแล
> ราศีกุมภ์ ไม่ต้องเอาอันที่ใหญ่มากนักหรอกนะ เล็กๆ ก็พอ ชาวราศีนี้ชอบอะไรที่ค่อนข้างจะกุ๊กกิ๊กน่ารัก
> ราศีมีนชาวมีนชอบช็อกโกแลตแบบที่มีรวมกันหลายรสหลายแบบ เพราะเป็นคนชอบแบ่งให้คนอื่นกินได้ด้วย
วันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ วันแห่งความรัก
เทศกาลวาเลนไทน์ เริ่มมีขึ้น ตั้งแต่ยุคที่จักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจ ในยุคนั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี ถูกจัดให้เป็นวันหยุดเพื่อเป็นเกียรติแต่เทพเจ้าจูโนผู้เป็น จักรพรรดินีแห่งเทพเจ้าโรมัน นอกจาก นี้แล้วพระองค์ยังทรงเป็นเทพเจ้าแห่ง อิสตรีเพศและการแต่งงานและในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ เป็นวันเริ่มต้นเทศกาล เฉลิมฉลองแห่งลูเพอร์คาร์เลีย การ ดำเนินชีวิตของหนุ่มสาวจะ ถูกตัดขาดออกจากกันอย่างสิ้นเชิง ในรัชสมัยของ จักรพรรดิคลอดิอัส ที่ 2 (Emperor Claudius II) แห่ง กรุงโรม พระองค์ ทรงเป็นกษัตริย์ที่มี ใจคอดุร้ายและทรงนิยม การ ทำสงครามนองเลือด ได้ทรงตระหนักว่าเหตุที่ ชายหนุ่มส่วนมากไม่ประสงค์จะเข้าร่วม ในกองทัพเนื่องจากไม่อยากจากคู่รัก และครอบครัวไป จึงทรงมีพระราชโอง การสั่งห้ามมิให้มีการจัดพิธีหมั้นและ แต่งงานกันในโรมโดยเด็ดขาด ทำให้ ประชาชนทุกข์ใจเป็นอย่างยิ่ง และขณะนั้น มีนักบุญรูปหนึ่งนามว่า เซนต์วาเลนไทน์ หรือวาเลนตินัส ซึ่งอาศัยอยู่ในโรมได้ ร่วมมือกับเซนต์มาริอัสจัดพิธีแต่งงานให้กับ ชาวคริสต์หลายคู่ และด้วยความปรารถนา ดีนี้เองจึงทำให้วาเลนไทน์ถูกจับและระ หว่างนี้ก็ยังคงส่งคำอวยพรวาเลนไทน์ ของเขาเองขณะที่เขาเป็นนักโทษ เป็น ความเชื่อว่าวาเลนไทน์ได้ตกหลุมรักหญิง สาวที่เป็นลูกสาวของผู้คุมที่ชื่อจูเลีย ซึ่งได้มาเยี่ยมเขาระหว่างที่ถูกคุมขัง ในคืนก่อนที่วาเลนไทน์จะสิ้นชีวิตโดยการถูกตัดศีรษะ เขาได้ส่งจดหมายฉบับ สุดท้ายถึงจูเลีย โดยลงท้ายว่า “From Your Valentine” . วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 หลังจากนั้นศพของเขาได้ถูก เก็บไว้ที่โบสถ์ พราซีเดส (Praxedes) ณ กรุงโรม จูเลียได้ปลูกต้นอามันต์ หรืออัลมอลต์สีชมพู ไว้ใกล้หลุม ศพของวาเลนตินัส แด่ผู้เป็น ที่รักของเธอ โดยในทุกวันนี้ ต้นอามันต์สีชมพูได้เป็นตัวแทน แห่งรักนิรันดรและมิตรภาพ อันสวยงาม และคำนี้ก็เป็นคำที่ใช้มา จนถึงปัจจุบัน ถึงแม้ว่าเบื้อง หลังความเป็นจริงของวาเลนไทน์จะ เป็นตำนานที่มืดมัว แต่เรื่องราวยังคง แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกสงสาร ความ กล้าหาญและที่สำคัญที่สุดเป็นเครื่องหมาย ของความโรแมนติค จึงไม่น่าประหลาดใจ เลยว่าในช่วงยุคกลางวาเลนไทน์เป็นนักบุญ ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในอังกฤษและฝรั่งเศส ต่อมาพระในนิกายโรมันคาทอลิกจึงเลือกให้ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันเฉลิมฉลอง เทศกาลแห่งความรักและดูเหมือนว่ายัง คงเป็นธรรมเนียมที่ชายหนุ่มจะเลือก หญิงสาวที่ตนเองพึงใจในวันวาเลนไทน์ สืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้
วาเลนไทน์ ในแต่ละประเทศจะมีประเพณีหรือการ ปฏิบัติที่แตกต่างกันบ้าง แต่โดยรวมแล้ว จะมีการเฉลิมฉลองและเป็นการแสดงถึง ความรักที่มีระหว่างกัน ต่อมาเมื่อความ เจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีทางด้าน การพิมพ์เข้ามาเกี่ยวข้องมีการพิมพ์บัตร อวยพรโดยเข้ามาแทนที่จดหมายที่ เขียนด้วยลายมือ และปัจจุบันก็มีการส่ง บัตรอวยพรทางออนไลน์เพื่อแสดงถึงความ ก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศที่ช่วย ให้คนที่ต้องการแสดงความรักความห่วงใย ถึงคนที่รักได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ประวัติ วันวาเลนไทน์นี้ เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆกันมา จนถึงปัจจุบัน เท่าที่ค้นหามาได้นี้เป็นเพียง หนึ่งในหลายๆเรื่องเท่านั้น แต่ไม่ว่าประวัติ ที่แท้จริง จะเป็นอย่างไรก็ตาม ใน ปัจจุบัน นี้เราได้ถือว่าวันวาเลนไทน์เป็น วันสำคัญวันหนึ่งในประวัติศาสตร์เลยที เดียว คุณสามารถส่งดอกไม้ ขนมและ การ์ด เพื่อบอกความนัยให้แก่คนพิเศษ ของคุณ วันนี้จะเป็นวันที่เราส่งความรู้สึก ดีๆให้แก่กัน...
26/1/52
แฟนที่ไม่ควรรัก
ราศีกับน้ำหอม
''ตำนานเจ้าแม่กวนอิม''
เนื่องจากพระโพธิสัตว์กวนอิม เป็นพระโพธิสัตว์ที่เมตตากรุณา จึงเป็นที่เคารพบูชาของมหาชนในหลายประเทศทั่วเอเชียนับแต่โบราณ ทำให้ตำนานของพระโพธิสัตว์กวนอิม มีความเป็นมาหลากหลายตำนานพื้นบ้านที่นิยมกล่าวขานถึงก็คือ ตำนาน “เมี่ยวชันบรรลุธรรม” และในการสร้างรูปเคารพท่านมักจะมีเด็กหญิงชายคู่หนึ่งอยู่ข้างกาย เรียก “กิมท้งเง็กนึ่ง” เด็กหญิงคือ หลงหนี่ เป็นธิดาพญามังกรมีสติปัญญามาแต่เล็ก อายุ 8 ขวบก็สำเร็จเป็นพุทธะ (มีดวงตาเห็นธรรม-ผู้เรียบเรียง)และช่วยพระโพธิสัตว์กวนอิมโปรดเวไนยสัตว์ ปรากฏกาย เป็นกุมารีอยู่ทางด้านขวา เด็กชายคือ ชั่งไฉถงจื่อ(สุธนกุมาร) เป็นบุตรเศรษฐีคนหนึ่งในบุญนคร เกิดมามีทรัพย์สินเงินทองมากมาย แต่ก็เห็นเป็นสิ่งไร้ค่า ปฏิญาณตนว่าจะบำเพ็ญให้สำเร็จเป็นพระโพธิสัตว์ สุธนกุมารได้รับคำแนะนำจากมัญชูศรีโพธิสัตว์ให้ไปคารวะศึกษาจากอาจารย์ 53 ท่าน(กัลยาณมิตร 53)สุดท้ายได้รับกราบพระโพธิสัตว์กวนอิมเป็นอาจารย์ที่โปตะละกะคีรี จนสำเร็จเป็นโพธิสัตว์และเพื่อช่วยเหลืออาจารย์โปรดเวไนยสัตว์จึงแสดงธรรมกายเป็นกุมาร อยู่ทางด้านซ้าย ตำนานพื้นบ้านของพระโพธิสัตว์กวนอิมที่เล่าสืบกันมามีดังนี้ ได้เล่าขานกันมาว่า เจ้าแม่กวนอิม เดิมกำเนิดเป็นเจ้าหญิงชื่อว่าเจ้าหญิงเมี่ยวชัน ราชธิดาองค์เล็กของกษัตริย์เมี่ยวจวง แห่งอาณาจักรซิงหลิง เจ้าหญิงเมี่ยวซันมีนิสัยเมตตากรุณาต่อสัตว์ทั้งหลายตั้งแต่เด็ก มีพระทัยใฝ่ใจที่จะออกบวช เพื่อพ้นจากทุกข์ตามคำสอนของพระพุทธศาสนา แต่พระบิดาคือ กษัตริย์เมี่ยวจวง ผู้มีจิตใจโหดร้ายชอบการเข่นฆ่าและทำสงครามไม่ยินยอม กลับบังคับให้เจ้าหญิงเมี่ยวชันเลือกคู่ครอง เจ้าหญิงเมี่ยวชันก็ยืนกรานที่จะออกบวช ไม่ว่าพระบิดาจะใช้อุบายต่างๆนานามาหลอกล่อเกลี้ยกล่อมอย่างไรก็ไม่สำเร็จจึงเกิดพิโรธที่มีผู้ขัดต่ออำนาจของตนจึงได้ประหารเจ้าหญิงเมี่ยวชันด้วยการรัดคอ ทันทีที่เจ้าหญิงเมี่ยวชันสิ้นลม พระภูมิเจ้าที่ได้แปลงร่างเป็นเสือมารับร่างเจ้าหญิงเป็นอยู่ที่เกาะศักดิ์สิทธิ์แห่งทะเลตะวันออกที่นั้นเจ้าหญิงเมี่ยวชันได้บำเพ็ญภาวนาจนบรรลุโพธิญาณรู้แจ้งในสัจธรรม ต่อมากษัตริย์เมี่ยวจวงได้เกิดเป็นโรคผิวหนังเกิดแผลเน่าทั้งกายรักษาอย่างไรก็ไม่หาย เจ้าหญิงเมี่ยวชันได้ทราบด้วยญาณว่าพระบิดาป่วยด้วยผลแห่งกรรมที่ทำมาและเห็นหนทางที่จะนำพระบิดาได้ก้าวพ้นทุกข์ได้จึงได้ให้หลวงจีนชันไฉ่ไปอาสารักษาโรคโดยสละดวงตาและแขนทั้งสองข้างของตนเพื่อปรุงยา เมื่อกษัตริย์เมี่ยวจวงได้หายจากโรคจึงได้สำนึกในบาปกรรมที่ตนได้ทำไว้ เลิกทำบาปหันมาสร้างกุศล ต่อมาได้สละราชสมบัติดั้นด้นเดินทางมาหาเซียนผู้เสียสละดวงตาและแขนเพื่อปรุงยาโดยไม่รู้ว่าเซียนผู้นั้นคือใคร เมื่อรู้ว่าเซียนผู้อุทิศแขนและดวงตามารักษาตนนั้นคือเจ้าหญิงเมี่ยวชัน ธิดาผู้ที่ตนสั่งประหารชีวิตก็สะเทือนใจสำนึกในบาปบุญคุณโทษ เกิดดวงตาเห็นธรรม ด้วยบุญกุศลที่เจ้าหญิงเมี่ยวชันได้บำเพ็ญเพียร บันดาลให้ดวงตาและแขนที่สละไปแล้วกลับงอกขึ้นมาดังเดิม และนับจากนั้นมาเจ้าหญิงเมี่ยวชันก็ได้เป็นพระโพธิสัตว์กวนอิม พระผู้ช่วยให้สัตว์รอดพ้นความทุกข์เดือดร้อน เป็นผู้ได้ปริเวทนาแห่งสัตว์โลก(อวโลกิเตศวร) และเป็นที่เคารพ กราบไหว้ สืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้
การศึกษาประวัติเจ้าแม่กวนอิม ควรทำความเข้าใจว่า เป็นการศึกษาประวัติพระโพธิสัตว์ ซึ่งจะเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต และอย่าหยุดเพียงแค่นี้ ควรศึกษาธรรมะหรือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าด้วย จะทำให้จิต-ปัญญาเราปลอดโปร่ง เป็นอิสรไม่ยึดติดเพียงแค่พระโพธิสัตว์
น้ำผักปั่น...เพื่อสุขภาพ
อานุภาพแห่งพลังจิตใต้สำนึก
รวบรวมจาก หนังสือ “พลังจิตใต้สำนึก”
โดย Dr Joseph Murphy
1. คุณเกิดมาเพื่อชัยชนะ และฟันฝ่าอุปสรรคทั้งหลายทั้งปวงด้วยพลังที่ทรงอานุภาพภายในกาย ซึ่งรอให้คุณปลุกขึ้นมาใช้ประโยขน์
2. จงสร้างภาพแห่งความสำเร็จ และตระหนักถึงจุดมุ่งหมายในชีวิต จากนั้นจิตใต้สำนึกก็จะสนองตอบและผลักดันให้คุณบรรลุถึงซึ่งความสำเร็จ
3. แนวคิดต่างๆล้วนถูกลำเลียงสู่จิตใต้สำนึก ด้วยการกล่าวย้ำซ้ำทวน รวมทั้งการมีความเชื่อมั่น และคาดหวัง
4. กฎแห่งจิตใต้สำนึกไม่มีวันล้มเหลว และอะไรก็ตามที่ประทับลงไปในนั้น มันจะทำให้ ปรากฎเป็นจริงขึ้นมา
5. คุณร่ำรวยเพราะสิ่งที่มีอยู่ภายใน... ทุกอย่างเป็นไปตามความเชื่อของคุณนั่นเอง
6. สูตรมหัศจรรย์แห่งความสำเร็จ คือการกล่าวย้ำซ้ำเตือนด้วยอารมณ์ความรู้สึกว่า.....”พระเจ้าทรงชี้แนะวิถีทางที่ดีกว่าเพื่อให้ฉันได้มีโอกาสรับใช้มนุษยชาติ
7. “ฉันเคารพ และอัญเชิญพระเจ้ามาประดิษฐานอยู่ที่ศูนย์กลางกาย ฉันดำรงรักษาไว้ซึ่งความมีสุขภาพดี ความเลื่อมใสศรัทธา และเคารพยำเกรงต่อสภาวะแห่งความประเสริฐสุดภายในกาย”
8. จงตัดสินใจควบคุมชีวิตของเราเอง และคิดอย่างสร้างสรรค์ตามแนวทางของพระเจ้า เพื่อมิให้ต้องพบกับการแกว่งไกวของโชคเคราะห์
9. จงเดินทางเข้าไปในจิตวิญญาณ แล้วคุณจะค้นพบความร่ำรวยแห่งสวรรค์ แฝงฝังอยู่ในส่วนลึก
10. จงปรับคลื่นเข้าสู่พลังอันไร้ของเขต พร้อมกับล่วงรู้และรู้สึกว่าพลังไร้ขอบเขตเบื้องบนได้กำหนด ควบคุมและชี้นำชีวิต แล้วคุณจะถูกนำไปสู่ชีวิตที่สร้างสรรค์และสมดุล เป็นอิสระหลุดพ้นจากการแกว่งไกวอย่างรุนแรงของโชคชะตา
11. เราสามารถหนุนเนื่องตัวเองให้อยู่เหนือภาวะจำยอม และพันธนาการทั้งหลาย ของมวลแห่งจิตใจ ด้วยการอัญเชิญพระเจ้าเข้ามาอยู่ในจิตใจ และตระหนักว่า ความรักของพระองค์ อาบไร้จิตวิญญาณ ส่วนปัญญานั้นชโลมความคิดของคุณ
12. ความร่ำรวยเริ่มต้นที่ตัวคุณ ความคิดและความรู้สึกเป็นผู้สร้างโชคชะตา พลังอำนาจ คุณสมบัติ และศักยภาพต่างๆ แห่งพระเจ้า ถูกปิดกั้นอยู่ภายในจิตใต้สำนึก และคุณมีกุญแจที่เปิดเข้าสู่ขุมทรัพย์ภายใน นั่นก็คือ “ความคิดของคุณเอง”
13. มีพลังซ่อนเร้นอยู่ในตัวเราซึ่งสามารถหนุนเนื่องให้หลุดพ้นจากความเจ็บไข้ได้ป่วย จัดวางคุณไว้บนเส้นทางสู่ความสุขสงบและพรอันประเสริฐทั้งมวลแห่งชีวิต
14. มิใช่พายุ แต่เป็นใบเรือที่กำหนดทิศทางเรือฉันใด ความคิด ความรู้สึก และภาพจินตนาการของคุณ ที่กำหนดอนาคต และนำความร่ำรวยมาสู่ชีวิต
15. ความเชื่อมั่นศรัทธาคือการคาดหมาย อย่างมั่นใจว่า ภาพจินตนาการที่คุณสร้างขึ้นในใจจะกลายเป็นจริง
16. จงเติมจิตสำนึกด้วยสัจธรรมแห่งพระเจ้า แล้วคุณจะลบล้างและถอนรากถอนโคนรูปแบบในทางทำลายออกไปจากจิตใต้สำนึกได้อย่างหมดสิ้น
17. การปรากฎของพระเจ้านั้น มาในรูปแบบของระเบียบวินัย ความสอดคล้องกลมกลืน สุขสงบ ความรัก การมีสุขภาพแข็งแรง และความเพียบพร้อม
18. จิตของพวกเราเป็นหนึ่งเดียว จิตไม่อยู่ในเงื่อนไขของเวลาและระยะทาง
19. เราสามารถพัฒนาประสาทสัมผัสพิเศษ โดยการถ่ายทอดแนวความคิดนี้ลงสู่จิตใต้สำนึก อันเป็นรากฐานที่ตั้งของประสาทสัมผัสพิเศษทั้งหลายทั้งปวง
20. หน้าที่หลักของมนุษย์ คือการเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า
21. จงทำตัวให้ใกล้ชิดพระเจ้า แล้วพระองค์จะใกล้ชิดท่าน
22. ทุกๆสิ่งเกิดขึ้นเป็นคู่เสมอ เช่นกลางวัน-กลางคืน รุ่งเรือง-เสื่อมถอย, เหนือ-ใต้, ชาย-หญิง, สร้างสรรค์-ทำลาย, ใน-นอก, หวาน-ขม, หยุดนิ่ง-เคลื่อนไหว, ดีใจ-เสียใจ
23. ความคิดของคุณ เกิดขึ้นเป็นคู่เสมอ ความคิดที่มาจากประสาทสัมผัสทั้ง 5 ต้องมลายไป และความคิดที่มีอยู่ในพระเจ้า จะต้องถูกฟื้นฟูและดำรงอยู่ในตัวคุณ
24. จงแนบชิดสนิทกับพระเจ้า แล้วคุณจะมีจิตใจที่เยือกเย็นบรรลุถึงความมุ่งมาดปรารถนาทั้งมวล
25. ความสงบเย็นและความสันติสุขของพระเจ้า รอคอยอยู่หน้าประตูแห่งจิตวิญญาณของคุณตลอดเวลา
26. คุณเกิดมาในโลกนี้เพื่อแสดงตัวเองออกมาอย่างเต็มที่ในสิ่งที่อยากทำ
27. คุณเป็นแม่พิมพ์ ผู้กำหนดรูปแบบและสร้างโชคชะตาตนเองด้วยวิถีแห่งความคิด
28. จิตใต้สำนึกของคุณ ตอบสนองต่อธรรมชาติแห่งความคิดและจินตนาการของจิตสำนึก
29. จงเรียกร้องต่อความเฉลียวฉลาดไร้ขอบเขตภายใน ให้แสดงแนวคิดสร้างสรรค์แปลกใหม่อย่างชัดเจน.......จงเชื่อมั่น เพราะสิ่งต่างๆล้วนเป็นไปตามความเชื่อของคุณ
30. เจตนารมณ์ของพระเจ้า ก็คือให้คุณมีชีวิตที่มั่งคั่งสมบูรณ์ในโลกนี้
31. จิตแห่งสากลจักรวาล มีช่องทางนับพันๆล้านในการอำนวยพรอันประเสริฐ และคุณคือช่องทางของพระเจ้า จงยอมรับความดีงาม ของคุณเสียแต่บัดนี้
32. ถ้าใครบางคนชี้แนะว่า คุณเกิดมาเพื่อความสำเร็จหรือมีชัยชนะเหนือปัญหาชีวิตทั้งหลาย และคุณยอมรับสิ่งนี้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยปราศจากความเคลือบแคลงแม้แต่น้อย ความมหัศจรรย์ ก็จะปรากฎขึ้นในชีวิตคุณ
33. จงมองให้เหนือกว่าภาพที่ปรากฏ และมุ่งมั่นอยู่กับความปรารถนาให้สิ่งที่มุ่งหมายกลายเป็นจริง แล้วคุณจะทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้
34. จงเชื่อมั่นในความดีงามแห่งพระเจ้า เชื่อในแรงบันดาลใจ เชื่อในชีวิตที่มั่งคั่งยิ่งๆขึ้นไป
35. คุณคือท่อธารแห่งพระเจ้า ดังนั้นความร่ำรวยจะหลั่งไหลผ่านตัวคุณโดยไม่จำกัด
36. จงเชื่อมั่นว่า คุณคือบุตรแห่งพระเจ้า และเชื่อว่าคุณได้รับถ่ายทอดคุณสมบัติและพลังอันไร้ขอบเขตแห่งพระเจ้า หากยึดมั่นความเชื่อนี้ไว้อย่างเหนี่ยวแน่น ก็จะสามารถสร้างความมหัศจรรย์ให้กับชีวิต จงเชื่อมั่นว่าคุณสามารถทำสิ่งต่างๆให้สำเร็จลงได้ด้วยพลังอำนาจ อันเข้มแข็งแห่งพระเจ้าที่ส่งผ่านตัวคุณ
37. ถ้าคุณกล่าวกับภูเขาแห่งความยากลำบาก อุปสรรค ปัญหา ให้เคลื่อนย้ายด้วยความเชื่อมั่นว่าพลังอันไร้ของเขตสามารถดลบันดาล มันก็จะกลายเป็นจริง
38. ทั้งหมดล้วนเป็นไปตามความเชื่อของคุณ จงเชื่อมั่นว่า พลังอันไร้ของเขตของพระเจ้า.......สรรพสิ่งล้วนเป็นไปได้ทั้งสิ้น
39. ศรัทธาที่แน่นเหนียว การคาดหมายที่ยิ่งใหญ่ ไฟแห่งจินตนาการ
40. ศรัทธาบำบัด เกิดด้วยแรงศรัทธาเชื่อมั่น จิตวิญญาณบำบัด คือปฏิกิริยาที่สอดคล้องของจิตสำนึก และจิตใต้สำนึก เป็นการชี้นำอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ มันมิใช่สิ่งที่เราเชื่อมั่น แต่เป็นตัวความเชื่อมั่นเอง ที่ก่อเกิดพลังบำบัดอันน่าทึ่งขึ้นมา
41. จงแปลเปลี่ยนความคิด แล้วโชคชะตาของคุณจะเปลี่ยนไป
42. จงรู้สึกอยู่ตลอดเวลาว่าความรักของพระเจ้าห้อมล้อมคุณ
43. วิธีการซึมซับจิตใต้สำนึกของคุณไว้ด้วยความร่ำรวยอันมั่นคง ก็คือสงบจิต ระงับใจให้หลับไปทุกๆคืนพร้อมกับถ้อยคำที่ว่า “บัดนี้ความร่ำรวยเป็นของฉัน” แล้วความมหัศจรรย์จะเกิดขึ้นในชีวิต
44. ความศรัทธาในจิตใต้สำนึก ก็คือความร่ำรวยของคุณนั่นเอง
45. มีจิตดวงหนึ่ง เป็นจิตที่เป็นสากล ทุกสิ่งที่ดีงามมาจาก หรือถูกฝากไว้ที่จิตดวงนี้ คุณจะใช้ประโยชน์จากสิ่งที่อยู่ในจิตสากล โดยการปรับคลื่นเข้าไปหาเท่านั้น
46. “หากสูเจ้าต้องการความมั่งคั่ง สูเจ้าต้องไม่ครอบครอง”